กสม. สุภัทรา ประชุมรับฟังความคิดเห็น กรณี ผู้ประกอบการส่งลูกจ้างคืนบริษัทรับเหมาค่าแรงเนื่องจากตั้งครรภ์

08/07/2566 180
          เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2566 นางสาวสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นประเด็นสิทธิแรงงาน โดยสืบเนื่องจากสำนักงาน กสม.
ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสภาองค์การลูกจ้างแรงงานสัมพันธ์แห่งประเทศไทย กรณีบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดระยองส่งคืนลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์ แก่บริษัทซึ่งประกอบกิจการให้บริการแรงงานทุกประเภท (ตัวแทนจัดหางาน) ซึ่งตั้งอยู่จังหวัดชลบุรี ต่อมาลูกจ้างคนดังกล่าวลาออกโดยไม่ได้รับค่าชดเชยและค่าเสียหายอื่นๆ ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน อาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิแรงงาน ขอให้ตรวจสอบ โดยการประชุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นายบุญแทน  ตันสุเทพวีรวงศ์ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายจุมพล  ขุนอ่อน ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายสมชาย  หอมลออ นายชฤทธิ์  มีสิทธิ์ ผู้ทรงวุฒิ กสม. ผู้แทนกองคุ้มครองแรงงานและกองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ผู้แทนสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรี ผู้แทนสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) ผู้แทนสหภาพแรงงานภาคตะวันออกพื้นที่แหลมฉบัง
และผู้แทนสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องประชุม 605 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

          การประชุมในครั้งนี้ พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และกองคุ้มครองแรงงานให้ความเห็นว่าบริษัททั้งสองแห่งเป็นนายจ้างร่วมกัน
ตามมาตรา 5 และมาตรา 11/1 พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน การคืนตัวแรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการทำงานมีอันตรายจากสารตะกั่ว แรงงานอายุงานไม่ถึง 120 วัน และลาออกเองจึงไม่ได้รับค่าชดเชยและค่าเสียหายอื่นตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ ตรวจพบการรั่วของสารตะกั่วในโรงงานจริง และสั่งให้โรงงานดำเนินการแก้ไขแล้ว

          นายสมชาย หอมลออ ผู้ทรงคุณวุฒิ กสม. ให้ความเห็นว่า บริษัทที่จดทะเบียนรับเหมาค่าแรง ไม่ได้มีฐานะเป็นนายจ้าง เป็นเพียงนายหน้าจัดหางาน บริษัทที่รับตัวแรงงานไปทำงานคือนายจ้าง ดังนั้น การส่งตัวกลับคือการเลิกจ้างหรือไม่ การตั้งครรภ์เป็นเหตุให้แรงงานรายนี้ตกงานในที่สุดหรือเป็นการเลิกจ้างเพราะตั้งครรภ์ รัฐมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองแรงงานที่ตั้งครรภ์ทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด กรณีรายนี้จึงเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 23 และข้อ 25 ขัดต่ออนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ขัดต่ออนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคสาม และขัดต่อพ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็น Social Law ที่มุ่งคุ้มครองกลุ่มคนที่เปราะบาง หรือมีความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน เจ้าหน้าที่ต้องตีความไปในทางคุ้มครองแรงงานเป็นสำคัญตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ประเด็นจึงเป็นทั้งปัญหาข้อกฎหมายและปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย การตีความ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
ต้องมีข้อเสนอแนะต่อการแก้ไขกฎหมายด้วย

          นายชฤทธิ์  มีสิทธิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กสม. ให้ความเห็นว่า รูปแบบการจ้างงานแบบจ้างเหมาแรงงาน ก่อให้เกิดปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานและความไม่เป็นธรรมต่อแรงงาน เอื้อต่อการเอาเปรียบแรงงาน มีผลต่อการรวมตัว เจรจาต่อรองของแรงงานด้วย แต่รัฐกลับไปรับรองการจ้างแบบนี้ เป็นปัญหากฎหมาย การส่งตัวคืนโดยอ้างความไม่ปลอดภัยในการทำงาน เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตตามหลักพื้นฐานประมวลกฎหมายแพ่งและพานิช มาตรา 5 รวมทั้งสัญญาจ้างแรงงานของบริษัทที่จดทะเบียนรับเหมาค่าแรงมีลักษณะเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานต้องมีมาตรการในการคุ้มครองแรงงานโดยมีกลไกการดูแลประเด็นแรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์เป็นการเฉพาะ

          นางอภันตรี เจริญศักดิ์ ผู้แทน สสรท. ให้ความเห็นว่า ปี 2563-2564 มีแรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์ถูกเลิกจ้างมาร้องเรียน 113 คน ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิแรงงาน ละเมิดสิทธิมารดา บางสถานประกอบการมีการกำหนดในสัญญาจ้งว่าห้ามตั้งครรภ์ก่อนทำงานครบ 1 ปี ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 42 พ.ร.บ. .คุ้มครองแรงงาน มาตรา 39 ถึงมาตรา 43 เป็นปัญหาช่องว่างทางกฎหมาย การเลิกจ้างหญิงตั้งครรภ์เป็นคดีอาญาด้วย แต่ไม่เคยมีการดำเนินการ การจ้างงานแบบเหมาค่าแรงเป็นการจ้างงานที่ไม่มีความมั่นคง ทำสัญญาทดลองงานทีละ 3 เดือน เป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ต้องแก้ไขกฎหมายและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่

          ทั้งนี้ กสม.จะได้นำความคิดเห็นดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนรายนี้ต่อไป
เลื่อนขึ้นด้านบน