กสม. ร่วมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประเด็นสิทธิแรงงาน

01/12/2568 25

                เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายบุญแทน  ตันสุเทพวีรวงศ์ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายภาณุพันธ์  สมสกุล ที่ปรึกษาสำนักงาน กสม. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อ ร่างข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประเด็นสิทธิแรงงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568

                นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1) สิทธิผู้สูงอายุ 2) สิทธิแรงงาน 3) สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี 4) ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และ 5) สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวโยงกับปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งประเด็นสิทธิแรงงานเป็นประเด็นที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง โดย กสม. ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ หน่วยงานของรัฐ เครือข่ายแรงงานกลุ่มต่าง ๆ ใน 4 ภูมิภาค และนำมาสู่การจัดทำร่างข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประเด็นสิทธิแรงงาน

                การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากรองศาสตราจารย์ แล ดิลกวิทยรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “พลวัตทางเศรษฐกิจกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิแรงงานตามมาตรฐาน” ซึ่งได้วิพากษ์ถึงเศรษฐศาสตร์กระแสหลักในอดีตที่ไม่ได้มองแรงงานในฐานะ “มนุษย์” แต่มองเป็นเพียง “พลังงานชนิดหนึ่ง” ที่มุ่งแสวงหากำไรสูงสุดผ่านการจ่ายค่าจ้างต่ำที่สุด จึงทำให้เพิ่ม “ผลิตภาพแรงงาน” (productivity) เพื่อให้คนทำงานได้มากขึ้นในเวลาเท่าเดิม โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของแรงงาน สะท้อนจากการใช้แรงงานเชลยในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทำให้แรงงานถูกมองว่าเป็น “คนอื่น” แรงงานจึงถูกกดทับ ขาดอำนาจต่อรอง และได้รับค่าจ้างเพียงค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งแม้ว่าระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานในประเทศไทยจะพัฒนามาถึงปัจจุบัน แต่แนวคิดการมองแรงงานว่าเป็น “คนอื่น” ยังคงอยู่ ดังนั้น การต่อสู้ของแรงงานเพื่อให้มีอำนาจในการเจรจาต่อรองเป็นสิ่งสำคัญ โดยในระบบทุนนิยมที่เป็นธรรม ผลกำไรของนายจ้างและการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างควรเติบโตควบคู่กัน เพื่อให้ทุกคนได้พัฒนาอย่างเท่าเทียม

                นอกจากนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและมุมมองเกี่ยวกับ “พลวัตและความท้าทายในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิแรงงานตามมาตรฐานระหว่างประเทศด้านสิทธิแรงงาน” โดยคุณจิตติมา  ศรีสุขนาม ผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศที่เป็นหลักการสำคัญในการคุ้มครองแรงงาน รวมถึงแนวคิด “งานที่มีคุณค่า” ที่จะช่วยส่งเสริมและคุ้มครองคนทำงาน คุณศักดินา  ฉัตรกุล ณ อยุธยา นักวิชาการอิสระด้านแรงงานได้ให้ข้อมูลความพยายามในการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 ในส่วนของรองศาสตราจารย์ ดร. ศุภศิษฏ์  ทวีแจ่มทรัพย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ให้ข้อมูลถึงความสำคัญของแรงงานข้ามชาติที่ถือเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสาระสำคัญของการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว

                ในช่วงบ่ายนางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อร่างข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประเด็นสิทธิแรงงาน จากผู้เข้าร่วมการประชุม ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการด้านแรงงาน หน่วยงานของรัฐ และเครือข่ายแรงงานกลุ่มต่าง ๆ ทั้งนี้ กสม. จะนำข้อมูลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นไปปรับแก้ร่างข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประเด็นสิทธิแรงงาน และนำเสนอในงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 18-19 ธันวาคม 2568 ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน