เมื่อวันที่ 18 – 20 พฤศจิกายน 2568 ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พรประไพ กาญจนรินทร์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สุภัทรา นาคะผิว เลขาธิการ กสม. หรรษา หอมหวล และรองเลขาธิการ กสม. ภาณุวัฒน์ ทองสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมการประชุมประจำปีกรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEANF) ครั้งที่ 22 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระดับอนุภูมิภาค แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดี และกำหนดทิศทางและกรอบการดำเนินงานของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้สอดคล้องกับบริบทความท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนในปัจจุบันและอนาคต

          ในการประชุมประจำปี SEANF ครั้งที่ 22 ประธาน กสม. ได้นำเสนอพัฒนาการและกิจกรรมสำคัญของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน 2568 ซึ่งรวมถึงการขยายการเข้าถึงกลไกคุ้มครองสิทธิของประชาชนผ่านการเปิดสำนักงานภูมิภาคแห่งที่สามในภาคเหนือ สถิติเรื่องร้องเรียนและผลการตรวจสอบกรณีสำคัญ การตอบรับข้อเสนอแนะของ กสม.จากรัฐบาล ตลอดจนการส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนผ่านการขับเคลื่อนโครงการเมืองสิทธิมนุษยชนและสมัชชาสิทธิมนุษยชน ตลอดจนติดตามสถานการณ์และผลภายหลังที่รัฐบาลจัดทำแผนปฏิบัติการหยุดยิงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยย้ำว่า กสม. จะเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หากพบประเด็นที่อาจกระทบต่อสิทธิมนุษยชน พร้อมกันนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สุภัทรา นาคะผิว ได้นำเสนอความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์กรอบความร่วมมือ SEANF พ.ศ. 2565 – 2569 ในประเด็นการป้องกันการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี โดยรายงานการขับเคลื่อนเชิงโครงสร้างผ่านความร่วมมือกับกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การตรวจเยี่ยมเชิงป้องกันในสถานที่ควบคุมตัวตามมาตรฐานของพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน (OPCAT) รวมถึงการพัฒนาแนวทางปฏิบัติเพื่อยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในกระบวนการยุติธรรม

          โอกาสนี้ ประธาน กสม. ได้ร่วมเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “การประยุกต์ใช้หลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนต่อการดำเนินกิจกรรมของบริษัทเทคโนโลยี รวมถึงปัญญาประดิษฐ์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ในช่วงการประชุมระดับภูมิภาค “สิทธิมนุษยชนในสังคมดิจิทัล ความท้าทายอุบัติใหม่ และบทบาทของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” โดยได้นำเสนอประเด็นความเสี่ยงในพื้นที่ดิจิทัล ความปลอดภัยของข้อมูล สิทธิเด็ก และธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมเน้นย้ำบทบาทของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง และส่งเสริมให้รัฐและภาคธุรกิจดำเนินการตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNGPs) อย่างเป็นรูปธรรม

          ที่ประชุมได้ย้ำถึงความสำคัญของการสานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก SEANF เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการรับมือกับความท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศมาเลเซีย (SUHAKAM) จะทำหน้าที่ประธาน SEANF และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม SEANF ครั้งที่ 23 ในปี 2569 เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีความเข้มแข็ง น่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพต่อไป