เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 นางสาวปิติกาญจน์ สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางรัตติกุล  จันทร์สุริยา ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าพบนางสาวดวงดาว  เกียรติพิศาลสกุล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และคณะผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ (กคส.) เพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อนความร่วมมือประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในหลายมิติ อาทิ การส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักถึงความสำคัญของการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืนและเคารพสิทธิมนุษยชน การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566-2570) รวมถึงการจัดทำกฎหมายส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ

          กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเด็น “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน” มาโดยตลอด โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ สถาบันการเงิน และหอการค้าจังหวัด เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับภาคธุรกิจ และส่งเสริมให้มีการประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงจัดทำเครื่องมือประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นให้กับภาคธุรกิจที่มีความสนใจ ซึ่งข้อค้นพบที่ได้จากการขับเคลื่อนร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ กสม. จะนำมาพัฒนาเป็นข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน เพื่อกำหนดเป็นเป้าหมายในการขับเคลื่อนร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน

          ในโอกาสนี้ กคส. ได้นำเสนอการดำเนินงานตามภารกิจที่สำคัญในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน อาทิ การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan) ระยะที่ 2 และการเตรียมความพร้อมในการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติฯ ระยะที่ 3 การผลักดันกฎหมายส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ ตามทิศทางของมาตรฐานสากลในการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านภาคบังคับ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน การดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศไทยต่อการสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนของภาคธุรกิจให้สอดคล้องกับหลักการสากล และการสร้างแรงจูงใจให้แก่ภาคธุรกิจผ่านมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการผลักดันงานด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

          ด้านที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติฯ ว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนากลไกในการตรวจสอบและประเมินการดำเนินงานของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ เพื่อให้การรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการระดับชาติฯ สามารถสะท้อนข้อเท็จจริง วัดผลได้และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ กสม. และ กคส. มีความยินดีขับเคลื่อนประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนร่วมกันในหลายประเด็น อาทิ การอบรมให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมายในหลายรูปแบบทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การจัดทำและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ การร่วมเป็นกรรมการหรือคณะทำงานในการจัดทำและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติฯ การให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และร่วมผลักดันกฎหมายส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ การสนับสนุนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ กสม. ในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับ กคส. ในการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักการชี้แนะแห่งสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และแนวทางการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านให้กับภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแล ซึ่งขณะนี้ กคส.อยู่ระหว่างการวางแผนการดำเนินงานทั้งในเชิงพื้นที่และเชิงประเด็น รวมถึงการร่วมหารือและขับเคลื่อนข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน ภายในงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน เนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล ประจำปี 2568 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 18-19 ธันวาคม 2568 ต่อไป