เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) ประชุมรับฟังสถานการณ์เด็กโยกย้ายถิ่นฐานในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อขับเคลื่อนข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็กให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเชิงพื้นที่ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ศูนย์สาธารณสุขชายแดนโรงพยาบาลแม่สอด คลินิกกฎหมายโรงพยาบาลอุ้มผาง แม่ตาวคลินิก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มูลนิธิช่วยไร้พรมแดน มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก มูลนิธิการศึกษาเพื่อการพัฒนา มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา มูลนิธิเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ของแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์ มูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคล มูลนิธิเพื่อการศึกษาแบบเรียนรวม มูลนิธิสุวรรณนิมิต ศูนย์การเรียนโพธิยาลัย The Border Consortium, Rights Beyund Border, Asylum Access Thailand Foundation, JRS regional office ณ มูลนิธิช่วยไร้พรมแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

          ในการประชุมดังกล่าว ที่ประชุมให้ข้อมูลสถานการณ์เด็กโยกย้ายถิ่นฐาน ปัญหาอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน (1) ด้านการศึกษา อาทิ การปฏิเสธการเข้าเรียน ข้อจำกัดในค่ายพักพิงชั่วคราว อุปสรรคในการเข้าถึงสถานศึกษาของรัฐ การหลุดจากระบบการศึกษา การเชื่อมโยงข้อมูลศูนย์การเรียนรู้ (2) ด้านสถานะบุคคลและเอกสาร อาทิ ปัญหาการแจ้งเกิดและสูติบัตร การจัดทำบัตรประจำตัว สถานะสามเณร (3) ด้านสาธารณสุข อาทิ ค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพ วัคซีนที่จำเป็น ภาวะทุพโภชนาการ การเข้าถึงบริการ และ (4) ด้านความปลอดภัยและนโยบาย อาทิ ความรุนแรงและการถูกล่วงละเมิด การเปิดบัญชีและซิมการ์ด นอกจากนี้ ข้อจำกัดด้านงบประมาณ บุคลากร และการตัดงบประมาณช่วยเหลือของต่างประเทศ ตลอดจนกลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการเชิงพื้นที่ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการผลักดันการคุ้มครองสิทธิเด็กให้ครอบคลุมทุกมิติ

          อนึ่ง เครือข่ายสถานะบุคคลเสนอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดเวทีหารือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล กลุ่มนักเรียนรหัส G ให้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน

          ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. จะรวบรวมข้อมูล ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะเชิงพื้นที่เพื่อประกอบในการจัดทำแนวทางขับเคลื่อนข้อเสนอแนะให้เกิดผลเป็นรูปธรรมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานของรัฐ เพื่อสร้างหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับเด็กกลุ่มนี้ในประเทศไทยต่อไป