เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 นางสาวปิติกาญจน์  สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางรัตติกุล  จันทร์สุริยา ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าพบนายวัณณะวัฒน์  โอภาสวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผนส่งเสริม SMEs และคณะผู้แทนสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อหารือแนวทางพัฒนาความร่วมมือในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ MSMEs บูรณาการ “หลักสิทธิมนุษยชน” เข้ากับการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม รองรับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น

          กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเด็น “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน” มาโดยตลอด โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ สถาบันการเงิน และหอการค้าจังหวัด เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับผู้ประกอบการ SMEs และส่งเสริมให้เกิดการประกาศนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในกระบวนการผลิตและบริการ อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ต พบว่า แม้ SMEs ให้ความสนใจเพิ่มขึ้น แต่ยังเผชิญข้อจำกัดด้านความรู้ เครื่องมือ ทรัพยากร และแรงจูงใจในการนำหลักสิทธิมนุษยชนไปใช้จริง

          ด้านที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า จากข้อจำกัดดังกล่าว กสม. เล็งเห็นความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหรืออยู่ในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานสากลที่กำหนดให้ธุรกิจต้องรับผิดชอบต่อสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม การร่วมมือกับ สสว. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำหนดนโยบายและส่งเสริม SMEs โดยตรง จะช่วยยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันได้ในตลาดโลก

          ในโอกาสนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผนส่งเสริม SMEs เปิดเผยว่า สสว. ให้ความสำคัญกับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) และได้บรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีของ สสว. มาอย่างต่อเนื่องเพื่อบูรณาการการทำงานของภาคีเครือข่ายกว่า 30 หน่วยงานที่มีภารกิจส่งเสริม SMEs และแม้จะยังไม่มีโครงการที่มุ่งเน้นสิทธิมนุษยชนโดยตรง แต่ สสว. ตระหนักดีว่าการดำเนินธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนจะช่วยเพิ่มมูลค่าและโอกาสทางการตลาดของ SMEs จึงพร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ศูนย์ประสานงานในทุกจังหวัด แพลตฟอร์ม SME Academy และ SME One ID รวมถึงยินดีเปิดพื้นที่ให้ กสม. นำสื่อการเรียนรู้ด้านสิทธิมนุษยชนเผยแพร่เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

          ทั้งนี้ กสม. และ สสว. เห็นพ้องกันว่า “การเคารพสิทธิมนุษยชน” คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ SMEs ไทยเติบโต เข้าถึงตลาดใหม่ และแข่งขันได้ในระยะยาว และพร้อมร่วมมือการขับเคลื่อนให้ “สิทธิมนุษยชนเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบธุรกิจ” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดแรงกดดันจากมาตรการกีดกันทางการค้าในต่างประเทศ โดยจะหารือรายละเอียดความร่วมมือเพิ่มเติม โดยเฉพาะกิจกรรมที่ช่วยเตรียมความพร้อมให้ SMEs ปฏิบัติตามหลักการ UNGPs และดำเนินกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนได้อย่างถูกต้องและยั่งยืน