เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องประชุมพระพุทธชินราช ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นางสาวศยามล ไกรยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายไพโรจน์ พลเพชร ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) นางสาวพิมพ์ดาว จันทรขันตี ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ประชุมรับฟังข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีได้รับแจ้งจากประชาชนและหน่วยงานราชการในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกว่า โครงการเหมืองแร่ทองคำของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่พื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก มีการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์และให้ผู้มีส่วนได้เสียตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงมาตรการบ่อกักเก็บกากและการจัดการไซยาไนด์ของโครงการเหมืองแร่ทองคำในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นมาตรการที่กำหนดไว้ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EIA/EHIA) ของโครงการฉบับเมื่อปี 2555 และปี 2565 (กำหนดให้บริษัทฯ ป้องกันการรั่วไหลและแพร่กระจายของกากแร่ในบ่อกักเก็บกากแร่บ่อที่ 1 ที่ปิดการใช้งานแล้ว โดยใช้แผ่นพลาสติก HDPE ปูปิดทับด้านข้างและด้านบนของบ่อ และใช้แผ่นพลาสติก HDPE ปูปิดทับบ่อที่ 2 หากใช้งานเต็มพื้นที่แล้ว) รวมทั้งขอสร้างพื้นที่จัดเก็บไซยาไนด์และเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บไซยาไนด์จากเดิมที่เป็นลังไม้เป็น Isocontainer แทน และเนื่องจากข้อมูลและแบบสอบถามที่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับอาจมีข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้วนชัดเจนเพียงพอ จึงเป็นที่มาของการจัดประชุมรับฟังข้อเท็จจริงในครั้งนี้

               การประชุมครั้งนี้ สรุปสาระสำคัญได้ว่า ในการขอเปลี่ยนแปลงมาตรการดังกล่าว บริษัทได้จัดเวทีประชุมและลงพื้นที่เพื่อชี้แจงข้อมูลรายละเอียดแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐและประชาชนที่อยู่บริเวณรอบเหมือง และจะนำข้อคิดเห็น ข้อห่วงกังวล รวมทั้งข้อเสนอแนะไปประกอบการจัดทำรายงานในการขอเปลี่ยนแปลง เพื่อเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และกรมอุตสาหกรรมพื้นที่และการเหมืองแร่ (กพร.) พิจารณาต่อไป โดยที่ประชุมได้มีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับบ่อกักเก็บกากแร่ หากมีการยกเลิกการปูแผ่น HDPE อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารอันตราย เช่น สารหนูและสารโลหะหนักอื่น ๆ สู่แหล่งน้ำใต้ดินและสิ่งแวดล้อม และการจัดเก็บไซยาไนด์ ประชาชนยังคงมีความกังวลต่อการใช้ไซยาไนด์ในการกระบวนการผลิต และขอเสนอให้บริษัทฯ พิจารณาเทคโนโลยีที่ไม่ใช้ไซยาไนด์

              สำหรับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ยังเห็นว่าข้อมูลประชาสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะข้อมูลทางเทคนิค และประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ทำให้ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างมีคุณภาพ และแบบสอบถามที่ใช้ในการรวบรวมความคิดเห็นมีความเป็นวิชาการสูง ยากต่อการทำความเข้าใจและตอบสำหรับประชาชนทั่วไป รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นบางแห่งระบุว่าไม่เคยได้รับข้อมูลหรือมีส่วนร่วมในกระบวนการตั้งแต่แรกเริ่ม อีกทั้งปัจจุบันยังมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการเรื่องเสียงดังและการสั่นสะเทือนจากการระเบิดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

              ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. จะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุมครั้งนี้ไปประกอบการจัดทำรายงานตรวจสอบ พร้อมทั้งเสนอข้อสังเกตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาดำเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนในพื้นที่