กสม. ศยามล ประชุมร่วมหน่วยงานรัฐหารือเรื่องการกำหนดสถานะทางทะเบียนให้กับผู้ต้องขังและผู้ต้องกักในเรือนจำและห้องกัก สตม.

06/11/2568 54

               เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาวมณีรัตน์ มิตรปราสาท ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายโกเมศ สุบงกชผู้ตรวจราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) เข้าร่วมการประชุมเพื่อประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการกำหนดสถานะทางทะเบียนให้กับผู้ต้องขังและผู้ต้องกักที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำและภายในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สวนพลู) และการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 และการออกหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ (1) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) (2) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (3) กรมการปกครอง (4) กรมราชทัณฑ์ (5) กรมการกงสุล และ (6) เรือนจำอำเภอสวรรคโลก เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 704 สำนักงาน กสม.

               การประชุมดังกล่าวที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ในแต่ละประเด็น ดังนี้

               (1) การกำหนดสถานะทางทะเบียนให้กับผู้ต้องขัง ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์มีนโยบายในการช่วยเหลือให้ผู้ต้องขังทุกรายได้รับการกำหนดสถานะทางทะเบียน และได้รับการรับรองว่าเป็นบุคคลตามกฎหมาย เพื่อให้บุคคลเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐานจากรัฐ โดยได้ประชุมหารือร่วมกับกรมการปกครอง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและผลักดันการทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาสังคมและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างดำเนินการตามนโยบาย

               (2) การตรวจสอบถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องกักที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องกักของ สตม. (สวนพลู) กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน จำเป็นต้องยื่นคำขอดังกล่าวด้วยตนเองและยื่นคำขอต่อนายทะเบียน/สำนักทะเบียนที่ผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนาอยู่ อย่างไรก็ตาม กรณีผู้ต้องกักที่ไม่สามารถระบุสัญชาติหรือภูมิลำเนาได้ สามารถใช้สถานที่ของ สตม. ที่ผู้ต้องกักถูกควบคุมตัวอยู่เป็นภูมิลำเนาได้ ทั้งนี้ สตม. จะนำตัวผู้ต้องกักที่ไม่สามารถระบุภูมิลำเนาได้เข้าสู่กระบวนการยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

               (3) การแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 และการออกหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการติดตามตามรายงานข้อเสนอแนะ ที่ 6/2566 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2566

               ทั้งนี้ กสม. จะรวบรวมข้อมูลและความเห็นจากทุกภาคส่วนไปประกอบการจัดทำรายงานประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และรายงานผลการติดตามตามข้อเสนอแนะ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน