กสม. ศยามล ประชุมรับฟังข้อมูลกรณีร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการบริหารจัดการหาบเร่แผงลอยของกรุงเทพมหานคร

06/10/2568 80

          เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม 417 อาคารวิศิษฐ์ ประจวบเหมาะ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาวมณีรัตน์ มิตรปราสาท ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าเหน้าที่สำนักงาน กสม. ประชุมรับฟังข้อมูลกรณีร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการบริหารจัดการหาบเร่แผงลอยของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับนักวิจัยโครงการวิจัยพัฒนาสุขภาวะผู้ค้าหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร ผู้แทนมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ และผู้แทนกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอยตลาดสะพานพุทธ ตลาดโบ๊เบ๊ และตลาดสดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ โดยผู้ค้าหาบเร่แผงลอยทั้ง 3 กลุ่ม มีข้อเสนอต่อกรุงเทพมหานคร ดังนี้

          1. พื้นที่ใต้สะพานพุทธ เขตพระนคร ถูกยกเลิกเป็นจุดผ่อนผันทำการค้าหาบเร่แผงลอย เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ปัจจุบันยามค่ำคืนเงียบเหงา ร้างผู้คน เป็นที่รวมตัวของคนไร้บ้าน และเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม พื้นที่ใต้สะพานพุทธเดิมมีผู้ค้า 668 ราย จำหน่ายสินค้าของกิน ของใช้ งานศิลปะ ร้านสัก ร้านตัดผม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว เป็นพื้นที่ของกรมทางหลวงที่ได้ยกทางให้ กทม.เป็นผู้ดูแล กลุ่มผู้ค้าเดิมตลาดสะพานพุทธ 105 ราย จะขอให้ กทม.กลับมาผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่แผงลอยดังเดิม โดยยินดีร่วมกับ กทม.พัฒนาให้เป็นตลาดท่องเที่ยว “ตลาดสะพานพุทธไนท์มาร์เก็ต”

          2. พื้นที่ทางเท้าหน้าตลาดสดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ ถูกยกเลิกเป็นจุดผ่อนผันทำการค้าหาบเร่แผงลอย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ตามนโยบายคืนทางเท้าให้ประชาชน พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดต่อรถขนาดใหญ่ของผู้ที่จะเดินทางต่อไปอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้ค้าเดิม 79 ราย ที่จำหน่ายอาหารริมทางเท้าหลากหลายและอร่อย ราคาย่อมเยา เก่าแก่เป็นตำนานตลาดชุมชน และเป็นผลให้ตลาดสดด้านในได้รับผลดีจากการที่มีผู้คนสัญจรไปมาอย่างคึกคักตลอดเวลา แต่ปัจจุบันพื้นที่ทางเท้าหน้าตลาดและในตลาดสดบางปะกอกเงียบเหงา กลุ่มผู้ค้าเดิมทางเท้าหน้าตลาดสดบางปะกอก 30 ราย จะขอให้ กทม. กลับมาผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่แผงลอยดังเดิม และจะเข้มงวดกับการจัดแผงค้าให้มีทางเท้าที่สะดวก รวมทั้งการรักษาความสะอาดพื้นที่

          3. พื้นที่ตลาดโบ๊เบ๊บริเวณติดคลองผดุงกรุงเกษมตั้งแต่หัวสะพาน 4 ถึงสะพาน 5 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ถูกยกเลิกเป็นจุดผ่อนผันทำการค้าหาบเร่แผงลอย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 เพราะเหตุอยู่ในรัศมี 150 เมตร จากวังมหานาค ซึ่งเหลืออยู่เพียงตำหนักเดียว พื้นที่ส่วนใหญ่ของวังถูกขายสร้างเป็นโรงแรมไปแล้ว เป็นตลาดขายส่งเสื้อผ้าที่ผลิตโดยคนไทย ซึ่งมีทั้งผู้ค้าส่งที่อยู่ในอาคารพาณิชย์ และผู้ค้าส่งริมทางเท้ามีจำนวน 126 ราย จะขอให้ กทม. กลับมาผ่อนผันให้ทำการค้าหาบเร่แผงลอยดังเดิม โดยแบ่งพื้นที่ทำการค้าเป็น 2 รอบ ๆ ละ 63 ราย คือ รอบเวลา 09.00 – 14.00 น. และรอบเวลา 01.00 – 05.00 น. และจะปฏิบัติตามกฎระเบียบของ กทม. อย่างเคร่งครัด

เลื่อนขึ้นด้านบน