กสม. จัดการเสวนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการ “AI เกี่ยวอย่างไรกับสิทธิมนุษยชน?” กรุงเทพมหานคร

26/09/2568 63

          เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพมหานคร ผศ. สุชาติ  เศรษฐมาลินี นายวสันต์  ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นางสาวหรรษา  หอมหวล เลขาธิการ กสม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. จัดการเสวนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการ “AI เกี่ยวอย่างไรกับสิทธิมนุษยชน?” เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคมต่อสถานการณ์การพัฒนาและการใช้ AI ความเสี่ยงและผลกระทบของ AI ต่อสิทธิมนุษยชน ตลอดจนแนวทางเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนจากการใช้และพัฒนา AI ในบริบทของประเทศไทย ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

          ในการเสวนาดังกล่าว สำนักงาน กสม. ได้รับเกียรติจาก ดร. ศักดิ์  เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ดร. พิณนรี  ธีร์มกร Lecturer and AI Strategist (Sasin School of Management)  ดร.ทัชนันท์ กังวานตระกูล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIEAT) และนายสมภพ  กฤตยาวรกุล Regional IT Manager – APAC (Family Health International (FHI 360)) ร่วมเป็นวิทยากรในการเสวนาประเด็น “AI เกี่ยวอย่างไรกับสิทธิมนุษยชน?” โดยวิทยากรได้ร่วมเสวนาในประเด็นสถานการณ์ โอกาสและความท้าทายในการพัฒนาและการใช้ AI ในประเทศไทย กรอบและการพัฒนากฎหมาย นโยบายและมาตรการกำกับดูแลการใช้และการพัฒนา AI ของประเทศไทย ความเสี่ยงจากการพัฒนาและการใช้ AI ต่อสิทธิมนุษยชน ทิศทางของ AI และผลกระทบของ AI ในระดับโลก โอกาสและความท้าทายจากการใช้และการพัฒนา AI ตลอดจนแนวทางในการรับมือจากโอกาสและความท้าทายดังกล่าว

          ช่วงบ่าย สำนักงาน กสม. ได้รับเกียรติจากนางสาวรจนา  ล้ำเลิศ ที่ปรึกษา ETDA และหัวหน้าศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance Center หรือ AIGC) และนายหัตถพงษ์  หิรัญรัตน์ เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนากฎหมาย ETDA บรรยายประเด็น “การประยุกต์ใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาล (Governance)” โดยได้นำเสนอ ธรรมาภิบาลในการประยุกต์ใช้ AI (AI Governance) ตลอดจนหลักจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ซึ่งรวมถึงหลักสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และได้นำเสนอความเสี่ยงและผลกระทบในด้านต่าง ๆ ที่ทั่วโลกต้องเผชิญ รวมทั้งแนวทางในการกำกับดูแลการใช้และการพัฒนา AI ที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ จากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงข้อเสนอแนะต่อมาตรการหรือวิธีการกำกับดูแล AI โดยแม้จะเห็นความสำคัญของการใช้และการพัฒนา AI แต่ก็เห็นความจำเป็นของมาตรการหรือการบังคับใช้กฎหมายในการกำกับดูแลและป้องกันผลกระทบเชิงลบของ AI ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นพ้องถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความรู้เท่าทัน AI หรือ AI Literacy ให้กับทุกภาคส่วน

          สำนักงาน กสม. ยังได้สำรวจความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมการเสวนาฯ ต่อการรับรู้ถึงผลกระทบของ AI ต่อสิทธิมนุษยชน โดยส่วนใหญ่ทราบถึงประโยชน์ของ AI ในมิติต่าง ๆ รวมถึงการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงออกและการเข้าถึงข้อมูล สิทธิในการทำงานและการดำรงอาชีพ และสิทธิในการมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะ ในขณะเดียวกัน ผู้เข้าร่วมยังตระหนักถึงผลกระทบด้านลบของ AI ต่อสิทธิมนุษยชน โดยเห็นว่า AI อาจมีผลกระทบต่อสิทธิในความเป็นส่วนตัวมากที่สุด รองลงมาเป็นสิทธิในชีวิตและความปลอดภัย อันดับสุดท้ายคือ เสรีภาพในการแสดงออกและการเข้าถึงข้อมูลและสิทธิของเด็ก

          การเสวนาครั้งนี้ เป็นการรับฟังความคิดเห็นในประเด็น “สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวโยงกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)” ครั้งที่สี่ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่สำนักงาน กสม. ได้จัดการเสวนาในลักษณะดังกล่าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ เมื่อเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน 2568 ตามลำดับ โดย สำนักงาน กสม. จะรวบรวมข้อมูลและข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วนทั่วประเทศเพื่อนำข้อมูลมาสังเคราะห์และจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อนำเสนอใน “สมัชชาสิทธิมนุษยชน” ซึ่งกำหนดจัดในเดือนธันวาคม 2568 ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน