กสม. สุภัทรา ร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน

25/09/2568 60

          เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายบุญแทน  ตันสุเทพวีรวงศ์ ที่ปรึกษาประจำ กสม. พร้อมด้วยนายภาณุพันธ์  สมสกุล ที่ปรึกษาสำนักงาน กสม. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน เกี่ยวกับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งการดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิแรงงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568

          การประชุมดังกล่าว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแนะนำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในภารกิจด้านการคุ้มครอง การเฝ้าระวังและการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน รวมถึงการขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1) สิทธิผู้สูงอายุ 2) สิทธิแรงงาน 3) สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี 4) ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และ 5) สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวโยงกับปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งประเด็นสิทธิแรงงานเป็นประเด็นที่ กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนอย่างต่อเนื่องและต้องอาศัยความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหา โดย กสม. ได้จัดรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ เครือข่ายแรงงานกลุ่มต่าง ๆ ทั้งหมด 5 ครั้ง ใน 4 ภูมิภาค และครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการคุ้มครองสิทธิแรงงาน

          นางสาวพีรดา ภูมิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน สำนักงาน กสม. ได้นำเสนอผลการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษชน ประจำปี 2568 ใน 4 ภูมิภาค ในประเด็นการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว สถานการณ์ปัญหาและข้อเสนอแนะของกลุ่มแรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ แรงงานแพลตฟอร์ม แรงงานข้ามชาติ พนักงานบริการ ลูกจ้างเหมาบริการ และรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานของรัฐ อาทิ กระทรวงแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน สำนักงานประกันสังคม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมการกงสุล กระทรวงศึกษาธิการ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยหน่วยงานให้ข้อมูลถึงการดำเนินการที่สำคัญในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน เช่น การจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ การแก้ไขกฎหมายแรงงานสัมพันธ์และแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ การแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกจ้างในกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์ให้เข้าสู่ระบบประกันสังคมมาตรา 33 การให้ความคุ้มครองผ่านกลไกการตรวจแรงงาน การรับเรื่องร้องเรียน การเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตน การประชาสัมพันธ์ให้แรงงานได้รับรู้สิทธิประโยชน์ของประกันสังคม การป้องกันการหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ การปรับระบบการขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ การจัดตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการกำหนดค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ขั้นต่ำสำหรับผู้ทำงานบนแพลตฟอร์ม เป็นต้น

          ทั้งนี้ กสม. จะนำข้อมูลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นไปจัดทำร่างข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประเด็นสิทธิแรงงาน และนำเสนอในงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 18-19 ธันวาคม 2568 ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน