เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 เวลา 14.30 น. ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส คุณศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมรายการสถานีประชาชน ในประเด็นเรื่อง ทบทวนค่าเวนคืนที่ดินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ร่วมกับคุณจุฑาพร ศรีสมุท ตัวแทนชุมชนประชาสงเคราะห์ และดร. วศิน พิพัฒนฉัตร ทนายความที่ปรึกษาของชาวบ้านชุมชนที่ได้รับผลกระทบ และตัวแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

          สืบเนื่องจากชาวชุมชนประชาสงเคราะห์ รวมตัวยื่นหนังสือต่อการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอให้ทบทวนค่าเวนคืนที่ดินแนวเขตก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม บริเวณสถานีประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง ที่ไม่เป็นธรรมเนื่องจากราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ชุมชนชานเมือง ชุมชนดรุณ ชุมชนปรานี ชุมชนผาสุก ชุมชนเมตตา ชุมชนแม่เนี้ยว และชุมชนสวัสดี ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบกล่าวว่า มิได้จะคัดค้านการสร้างรถไฟฟ้าดังล่าว เพียงแต่เงินค่าชดเชยที่ได้รับจากการเวนคืนที่ดินไม่เพียงพอที่จะซื้อที่อยู่อาศัยใหม่

          กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งมีรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน เป็นผู้กำหนดเส้นทางก่อสร้างว่าจะใช้เส้นทางรถไฟสายใด ซึ่งแต่เดิมในรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ปี พ.ศ. 2557 เป็นเส้นทางที่ผ่านเส้นทางพระราม 9 โดยไม่ได้ผ่านที่อยู่อาศัยของประชาชนและใช้งบประมาณน้อยกว่าเส้นทางผ่านดินแดง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนเส้นทาง ผู้ดำเนินโครงการจะต้องชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงเหตุผลในการเปลี่ยนเส้นทาง ซึ่งเป็นสิทธิที่ประชาชนต้องได้รับทราบข้อมูลที่เพียงพอในการมีส่วนร่วมต่อการตัดสินใจในการกำหนดเส้นทางดังกล่าว แม้ว่าการ รฟม. จะชี้แจงว่า ได้ให้ข้อมูลนี้ไปแล้วกับชาวบ้านใน ปี พ.ศ. 2559 แต่ก็ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่ยังไม่ทราบถึงข้อเท็จจริงนี้ อันเป็นประเด็นที่ กสม.จะนำไปตรวจสอบต่อไป 

          ทั้งนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความเห็นว่า คณะกรรมการกำหนดค่าทดแทนในกรณีการเวนคืนที่ดินที่มี รฟม. เป็นเจ้าของโครงการ ผู้แทนกรมธนารักษ์ ผู้แทนจากกรมที่ดินและผู้อำนวยการเขตนั้น ควรจะมีผู้แทนชาวบ้านที่เวนคืนที่ดินเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกำหนดค่าทดแทนร่วมด้วยตามที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณา EIA มีข้อเสนอในรายงาน EIA เพื่อให้ประชาขนได้เสนอการกำหนดค่าทดแทนจากการถูกเวนคืนที่ดินเนื่องจากการย้ายที่อยู่ใหม่ อาจต้องเปลี่ยนอาชีพ เปลี่ยนที่ทำมาหากิน รวมถึงเปลี่ยนวิถีชีวิตเดิมอันเป็นสิทธิในที่อยู่อาศัยที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่คณะกรรมการสิทธิมนุษชนแห่งชาติให้ความสำคัญ