เมื่อวันที่ 17 - 18 กันยายน 2568 ที่ห้องประชุม Meeting Room ชั้น 2 โรงแรม Indigo จังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดย คุณสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยคุณสมชาย  หอมลออ นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน คุณชฤทธิ์  มีสิทธิ์ นักกฎหมายด้านแรงงาน คุณภาณุวัฒน์  ทองสุข และ คุณจุมพล  ขุนอ่อน รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) โดย คุณสุรางค์  จันทร์แย้ม ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ และทีมงาน จัดการเสวนาสัญจรเพื่อขับเคลื่อนและติดตามข้อเสนอแนะการคุ้มครองแรงงานในสถานบริการ (ภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร) ครั้งที่ 4 โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วยผู้ประกอบการ เจ้าของสถานบริการ และพนักงานบริการ จำนวนกว่า 70 คน

          ในช่วงแรกกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวเปิดการเสวนา พร้อมทั้งแนะนำบทบาทของ กสม. ซึ่งวัตถุประสงค์สำคัญของการเสวนาสัญจรในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะจากสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2566 ซึ่งมีมติให้ยกเลิกกฎหมายที่กำหนดโทษอาญาในการค้าประเวณี และผลักดันการออกกฎกระทรวงเฉพาะเพื่อคุ้มครองแรงงานในสถานบริการ อันเป็นหลักประกันสิทธิในการประกอบอาชีพและการเข้าถึงสวัสดิการในฐานะแรงงาน

          จากนั้น ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ นำเสนอภารกิจและบทบาทขององค์กรในการส่งเสริมสิทธิและศักดิ์ศรีของพนักงานบริการทางเพศ และการดำเนินการที่ผ่านมาในการขับเคลื่อนการยกเลิกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 เพื่อคุ้มครองสถานะของพนักงานบริการในฐานะแรงงาน ให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม

          ในโอกาสนี้ ผู้เข้าร่วมเสวนาได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค และแนวทางการคุ้มครองสิทธิแรงงานในสถานบริการ อาทิ

- ข้อจำกัดของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ซึ่งถูกมองว่าไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน เนื่องจากลงโทษเฉพาะผู้ให้บริการทางเพศและผู้จัดให้มีการค้าประเวณี แต่ไม่เอาผิดกับผู้ซื้อบริการ อันนำไปสู่ความไม่เป็นธรรมและการเลือกปฏิบัติ จึงมีข้อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายดังกล่าว และจัดทำกฎหมายใหม่เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ให้บริการในฐานะแรงงาน

- ปัญหาการทำงานที่พนักงานในสถานบริการจำนวนมากประสบ เช่น ขาดเงินเดือนประจำ ขาดหลักประกันแรงงาน การแบ่งรายได้ไม่เท่าเทียม การหักค่าใช้จ่ายแฝง ขาดความมั่นคงในการทำงาน ขาดสวัสดิการที่เหมาะสม ตลอดจนการฝึกอบรมด้านทักษะบริการและความปลอดภัย

          ทั้งนี้ ข้อมูลสภาพปัญหา สถานการณ์ และข้อคิดเห็นจากที่ประชุม จะได้นำไปประมวลสรุปผลเพื่อขับเคลื่อนการทำงานด้านการคุ้มครองสิทธิแรงงานในสถานบริการ ซึ่งจะได้มีการนำเสนอผลการดำเนินงานในงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ต่อไป