เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร คุณปิติกาญจน์  สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยคุณรัตติกุล  จันทร์สุริยา ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลการประกอบธุรกิจ เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนหลักการสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNGPs) ไปสู่การปฏิบัติ โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาควิชาการ และผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 100 คน ทั้งแบบ onsite และ online

          กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงความจำเป็นที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัวและดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนท่ามกลางความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงแรงกดดันจากตลาดทุนและพันธมิตรทางการค้า พร้อมย้ำว่าการดำเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิมนุษยชนต้องอาศัยหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ โดยเฉพาะการประเมินและจัดการความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Human Rights Due Diligence – HRDD) ขณะเดียวกัน ภาครัฐต้องมีบทบาทคุ้มครองและส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนผ่านมาตรการและกลไกต่าง ๆ

          ภายในงาน ผศ.เสาวณีย์  แก้วจุลกาญจน์ วิทยากร ได้นำเสนอความเชื่อมโยงระหว่างหลักการสากล กฎหมาย และแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน พร้อมสะท้อนข้อท้าทายทั้งด้านนโยบายและการปฏิบัติจากการรับฟังความคิดเห็นในเวทีที่ผ่านมาในกลุ่มเป้าหมายภาคประชาสังคม กลุ่มธุรกิจ SMEs และกลุ่มธุรกิจหรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งพบว่ายังมีข้อท้าทายหลายประการทั้งในด้านนโยบายและการปฏิบัติ

          ต่อมา คุณจีรภรณ์  ศิริพลัง ทุมมาศ หัวหน้ากลุ่มงานวิเทศสัมพันธ์และส่งเสริมการปฏิบัติตามพันธกรณีสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้นำเสนอพัฒนาการการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566–2567) โดยชี้ว่าประเด็นด้านชุมชน ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

          นอกจากนี้ คุณเพ็ญพิชชา  จรรย์โกมล ผู้แทน UN Global Compact Network Thailand ได้นำเสนอหลักการสากล 10 ประการที่ภาคธุรกิจควรยึดถือ ครอบคลุมประเด็นสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต โดยเครือข่ายได้มีการตั้งสถาบันธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (BHR Academy) ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นสิทธิมนุษยชนสำหรับองค์กรภาคธุรกิจ และเพื่อพัฒนาศักยภาพในการนำหลักการและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนที่ดีไปใช้ให้เกิดผลได้จริง และสามารถตรวจสอบสิทธิมนุษยชนได้อย่างรอบด้านอีกด้วย

          ในช่วงการแลกเปลี่ยน ผู้เข้าร่วมได้เสนอแนวทางเชิงนโยบาย มาตรการกำกับดูแล และแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงข้อเสนอแนะในการยกระดับมาตรการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจประกอบธุรกิจด้วยความเคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะนำข้อคิดเห็นเหล่านี้ไปสู่การจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและแนวทางปรับปรุงกฎหมายเพื่อผลักดันผ่านเวทีสมัชชาสิทธิมนุษยชนประจำปี 2568 ต่อไป