กสม. สุชาติ ร่วมเสวนา “หลักนิติธรรมกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไทย”

12/09/2568 107

          เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ที่ห้องประชุม ดร. ไสว สุทธิพักษ์ อนุสรณ์ คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สำนักงานอัยการสูงสุด สถาบันนิติวัชร์ จัดเสวนาวิชาการ “หลักนิติธรรมกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไทย” ครั้งที่ 3 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.)  พร้อมด้วยเครือข่ายคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตเป็นองค์กรร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากระบวนการยุติธรรมไทยให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรม ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อเสนอเชิงนโยบาย

          ในการเสวนาดังกล่าว ผศ.สุชาติ  เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ มุมมองแนวคิด รวมถึงประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการนำหลักนิติธรรมมาใช้ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา อาทิ ความล่าช้าของการพิจารณาคดี ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม การรักษาความสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพของบุคคลกับความยุติธรรม ขอบเขตของการใช้ดุลพินิจในกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างระบบยุติธรรมทางอาญาที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายร่วมการเสวนา ประกอบด้วย ศ.พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดร.สุรสิทธิ์ แสงวิโรจนพัฒน์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 นายสุวิช ชูตระกูล อัยการอาวุโส อดีตอธิบดีอัยการภาค 7 นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ และ รศ. อัจฉรียา ชูตินันทน์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยมี นายวิพล กิติทัศนาสรชัย อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ดำเนินรายการ

          ในการเสวนาดังกล่าวมีคณาจารย์ นักวิชาการ บุคลากรในกระบวนการยุติธรรม นิสิตนักศึกษา เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นมากกว่า 300 คน นอกจากนี้ยังมีผู้สนใจเข้าร่วมชมการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live อีกด้วย ทั้งนี้ ในการเสวนามีประเด็นที่น่าสนใจโดยเห็นว่าทุกฝ่ายจำเป็นต้องร่วมมือกันในการผลักดันให้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาไทยดำเนินไปบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม (Rule of Law) และปรับปรุง แก้ไข พัฒนากฎหมาย ทั้งในเชิงโครงสร้าง ตลอดจนการบังคับใช้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม อันจะนำไปสู่การสร้างความยุติธรรมที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมต่อสังคม

เลื่อนขึ้นด้านบน