กสม. สุภัทรา เข้าร่วมเวทีเสวนา “หลักนิติธรรมกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไทย” ครั้งที่ 2

12/09/2568 78

          เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ร่วมกับสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด และเครือข่ายคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต จัดเวทีเสวนาวิชาการหัวข้อ “หลักนิติธรรมกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไทย” ครั้งที่ 2 ณ ห้องประชุม ชั้น 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

          ภายในงานได้รับเกียรติจาก ผศ. สิทธิภาคย์  ภูริสินสิทธิ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวเปิดงาน และ นายบัญชา เขียวต่าย เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวปาฐกถา จากนั้นเป็นเวทีเสวนาประกอบด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศ.พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รศ.ดร. โคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ผศ.ดร. กรรภิรมย์  โกมลารชุน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายปกรณ์  ธรรมโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยกฎหมายอาญาและพัฒนากระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ โดยมี ผศ.ดร. ธีรนิติ์ เทพสุเมธานนท์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ซึ่งงานเสวนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยคณาจารย์ นักวิชาการ บุคลากรในกระบวนการยุติธรรม นักศึกษา จำนวนกว่า 100 คน ตลอดจนผู้สนใจทั่วไปที่รับชมผ่าน Facebook Live

การเสวนาดังกล่าวได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับพัฒนาการ ความหมาย และความสำคัญของหลักนิติธรรม (Rule of Law) ในการคุ้มครองสิทธิประชาชน ป้องกันการใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ รวมทั้งสะท้อนปัญหาในกระบวนการยุติธรรม เช่น การเลือกปฏิบัติ การละเมิดหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ (presumption of innocence) ปัญหาเชิงโครงสร้าง และการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม

          ในโอกาสนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้นำเสนอประเด็นสำคัญเกี่ยวกับพันธกรณีระหว่างประเทศ ข้อร้องเรียนด้านกระบวนการยุติธรรม และข้อเสนอแนะ เช่น การแก้ไขปัญหาผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี สิทธิการประกันตัว การกักขังแทนค่าปรับ การใช้เครื่องพันธนาการ การควบคุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด ระยะเวลาควบคุมตัวก่อนพบศาล รวมถึงความล่าช้าในการดำเนินคดีและปัญหาคดีในศาลทหาร

ในช่วงท้าย เป็นการอภิปรายร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยเฉพาะประเด็นการเพิ่มบทบาทอัยการตั้งแต่ขั้นตอนการสอบสวนและการตรวจสอบหมายจับ พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับระบบอัยการในต่างประเทศ เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งมีความแตกต่างด้านสถานะ หน้าที่ และอำนาจ ถือเป็นความท้าทายและก้าวสำคัญในการพัฒนากระบวนการยุติธรรมไทยให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และเป็นหลักประกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง

เลื่อนขึ้นด้านบน