สำนักงาน กสม. จัดเวทีสัมมนา “ตำรวจชุมชนกับเครือข่ายในกระบวนการยุติธรรม” ขับเคลื่อนการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ อย่างมีประสิทธิภาพ

09/09/2568 112

          เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ที่โรงแรมไอบิส สไตล์ กรุงเทพ รัชดา เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) จัดเวทีสัมมนา “ตำรวจชุมชนกับเครือข่ายในกระบวนการยุติธรรม” โดยมีคุณปิติกาญจน์  สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นประธาน พร้อมด้วยคุณพิทยา จินาวัฒน์ ที่ปรึกษาประจำ กสม. คุณภาณุวัฒน์  ทองสุข รองเลขาธิการ กสม. คุณทิพย์ธีรา รัมมณีย์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วม โดยการสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ณรงค์  ใจหาญ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย บรรยายให้ความรู้พื้นฐาน พร้อมด้วยคุณธัญสุดา  หน่อแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย และคุณนิธิวดี  พรหมอาจ นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ ผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมเป็นวิทยากร แลกเปลี่ยนความรู้และตอบข้อซักถามให้กับผู้เข้าร่วมกว่า 80 คน จาก 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

          1. เจ้าหน้าที่ตำรวจในภารกิจตำรวจชุมชนซึ่งปฏิบัติงานเชิงรุกใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง จาก สน.ห้วยขวาง สน.ดินแดง สน.มักกะสัน สน.ดุสิต สน.ชนะสงคราม สน.บางโพ โดยมีผู้แทนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บ.ชน. 1) และผู้แทนสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมสังเกตการณ์

          2. ผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ดินแดง – ห้วยขวาง ที่มีความร่วมมือใกล้ชิดกับตำรวจชุมชนอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงความเข้มแข็งของภาคประชาชนในการเฝ้าระวังอาชญากรรมและสร้างความปลอดภัยในพื้นที่

          ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มุ่งขับเคลื่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายผ่านข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะขั้นตอนการจับกุม ควบคุมตัว ตลอดจนการปลูกฝังค่านิยมและทัศนคติที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรา 29 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในฐานะ “พลเมืองดี” หากพบหรือทราบการทรมาน การปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือการทำให้บุคคลสูญหาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายได้โดยไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง อาญา หรือวินัย หากกระทำโดยสุจริต แม้ภายหลังไม่พบการกระทำผิดจริงก็ตาม เจตนารมณ์ดังกล่าวสะท้อนความสำคัญของการมีส่วนร่วมจากประชาชนในการเฝ้าระวังและสร้างสังคมปลอดการทรมาน อันสอดคล้องกับแนวคิดตำรวจชุมชนสัมพันธ์ (Community Policing) ที่เน้นการร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนในการดูแลความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรม

          การผนวกแนวคิดตำรวจชุมชนเข้ากับการสร้างเครือข่ายในกระบวนการยุติธรรม จึงเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสังคม โดยมีสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางเป็นต้นแบบที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือแน่นแฟ้นระหว่างตำรวจกับประชาชน ซึ่งสามารถขยายผลเป็นต้นแบบให้พื้นที่เมืองอื่น ๆ นำไปปรับใช้และต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          การสัมมนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการติดตามและขับเคลื่อนข้อเสนอแนะตามข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชนในประเด็นสิทธิในกระบวนการยุติธรรม โดยมุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือและความไว้วางใจระหว่างตำรวจชุมชนกับเครือข่ายประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะสะท้อนผลเป็นรูปธรรมในการสร้างสังคมที่ปลอดจากการทรมานและสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. จะนำผลการสัมมนาไปประกอบการจัดทำรายงานเพื่อเสนอในงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน