กสม. ปิติกาญจน์ ร่วมเวทีเสวนา “หลักนิติธรรมกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไทย” ชี้ปัญหาเชิงโครงสร้างและเสนอแนวทางปฏิรูป

05/09/2568 194

          เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 ที่ห้องจี๊ด เศษฐบุตร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และเครือข่ายคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ “หลักนิติธรรมกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไทย” โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.ต่อพงศ์  กิตติยานุพงศ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนานักศึกษา มธ. กล่าวเปิดงาน และ นายบัญชา เขียวต่าย เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวปาฐกถา เวทีเสวนาดังกล่าว นางสาวปิติกาญจน์  สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย อาทิ ศ.ดร.สุรศักดิ์ ลิขสิทธิวัฒนกุล และผศ. ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มธ. รวมถึง ดร. น้ำแท้  มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีคณาจารย์ นักวิชาการ บุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ผู้เข้าร่วมกว่า 80 คน ตลอดจนผู้สนใจทั่วไปที่ติดตามผ่าน Facebook Live

          หัวข้อการเสวนามุ่งสร้างความตระหนักเรื่อง หลักนิติธรรม (Rule of Law) ในการใช้อำนาจรัฐ เพื่อควบคุมมิให้องค์กรของรัฐใช้อำนาจตามอำเภอใจ เกินขอบเขตหรือไม่เป็นธรรม โดยชี้ให้เห็นปัญหาที่ประเทศไทยยังเผชิญ ทั้งความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ชั้นจับกุมสอบสวน การไม่ได้รับสิทธิประกันตัว การขาดทนายความที่มีคุณภาพ และปัญหาเรือนจำแออัดจากการใช้โทษจำคุกเป็นหลัก จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 1 กันยายน 2568 พบว่ามีผู้ต้องขังทั่วประเทศกว่า 300,000 คน ในจำนวนนี้กว่า 86,000 คน หรือร้อยละ 28 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งสะท้อนปัญหาที่ไม่สอดคล้องกับหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ (presumption of innocence) ตามรัฐธรรมนูญ

          ทั้งนี้ ผู้ร่วมเสวนายังได้วิพากษ์ถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในหลากหลายมิติที่ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม โดยเฉพาะการทำงานของหน่วยงานรัฐที่ยังขาดการบูรณาการ แม้จะมีกลไกคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่ยังไม่สามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม

          ช่วงท้ายของเวทีมีการแสดงความเห็นต่อ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่เสนอให้เพิ่มบทบาทอัยการตั้งแต่ขั้นตอนการสอบสวน รวมถึงการตรวจสอบการออกหมายจับ เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากระบวนการยุติธรรมไทยให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และมุ่งสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลาง

เลื่อนขึ้นด้านบน