กสม. สุภัทรา ร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน พื้นที่ภาคเหนือ

26/08/2568 93

          เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมโนโวเทล เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นี่ย์ฮับ จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายบุญแทน  ตันสุเทพวีรวงศ์ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายภาณุพันธ์  สมสกุล ที่ปรึกษาสำนักงาน กสม. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน พื้นที่ภาคเหนือ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนด้านแรงงาน และการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 และอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว โดยระดมความคิดเห็นจากตัวแทนของแรงงานกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568

          กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แลกเปลี่ยนและรับฟังสถานการณ์ปัญหาของแรงงานที่ยังคงถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน และได้รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายลูกจ้างนักการภารโรงสี่ภาคที่ถูกปรับเปลี่ยนการจ้างงานเป็นแบบจ้างเหมาบริการไว้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ต่อไป

          นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ระดมความคิดเห็นในการประชุมกลุ่มย่อยจากตัวแทนของกลุ่มแรงงานสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1) กลุ่มแรงงานในระบบพบปัญหาสัญญาจ้างงานไม่เป็นธรรมและสวัสดิการต่ำกว่ามาตรฐานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เสนอให้แก้ไขปัญหาการจ้างงานในรูปแบบที่ไม่มั่นคงและสัญญาจ้างที่ไม่เป็นธรรม

2) กลุ่มแรงงานนอกระบบพบปัญหาสถานประกอบการไม่แจ้งลูกจ้างเข้าสู่ระบบการจ้างงานทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับแรงงานในระบบ การคุ้มครองผู้ประกันตนมาตรา 40 ยังไม่เพียงพอ เสนอให้ผลักดันให้แรงงานที่มีนายจ้างเข้าสู่การเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40

3) กลุ่มแรงงานแพลตฟอร์มพบปัญหาความคลุมเครือของสถานะตามกฎหมาย ค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม ความปลอดภัยในการทำงาน เสนอให้มีการคุ้มครองแรงงานให้ได้รับสิทธิตามกฎหมาย

4) กลุ่มแรงงานข้ามชาติพบปัญหาการขึ้นทะเบียนแรงงานที่มีความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายสูง ปัญหาการเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพ ปัญหาการเข้าถึงการศึกษาของเด็กติดตามแรงงาน เสนอให้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานโดยใช้ระบบ one stop service เพื่อลดขั้นตอนและค่าใช้จ่าย และแก้ไขปัญหาการขายบัตรประกันสุขภาพ

5) กลุ่มพนักงานบริการพบปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติ การเข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม เสนอให้มีการยกเลิกกฎหมายที่มีโทษทางอาญากับพนักงานบริการ และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน 

6) กลุ่มแรงงานจ้างเหมาบริการพบปัญหาการปรับเปลี่ยนสัญญาจ้างทำให้เข้าไม่ถึงสิทธิและสวัสดิการตามกฎหมาย เสนอให้หน่วยงานกลับไปจ้างงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวและให้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน 

          นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นว่าการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว รวมถึงอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 จะเป็นประโยชน์และช่วยยกระดับการคุ้มครองและคุณภาพชีวิตของแรงงานในประเทศไทย

          อนึ่ง การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 4 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มแรงงานในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน

เลื่อนขึ้นด้านบน