กสม. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการและออกหน่วยคลินิกสิทธิมนุษยชนเคลื่อนที่เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ในพื้นที่อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ภายใต้โครงการคลินิกสิทธิมนุษยชน

21/08/2568 145

                เมื่อวันที่ 5-8 สิงหาคม 2568 ที่อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง นางปรีดา  คงแป้น กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นำทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) ลงพื้นที่บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมในการออกหน่วยโครงการคลินิกสิทธิมนุษยชน โดยการประสานความร่วมมือกับอำเภอเมืองระนอง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดระนอง กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มูลนิธิชุมชนไทย คลินิกกฎหมาย และเครือข่ายคืนสัญชาติคนไทย ทั้งนี้ การลงพื้นที่ดังกล่าวได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการยื่นคำขอรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ซึ่งกระบวนการยื่นคำขอรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นเพื่อให้ประชาชนได้รับการกำหนดสถานะทางทะเบียน จำเป็นต้องมีการสอบปากคำผู้ยื่นคำขอและพยานบุคคล เพื่อให้ได้ความแน่ชัดว่า ผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งต้องอาศัยทักษะและความชำนาญโดยต้องได้รับการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดจากสำนักทะเบียนอำเภอเมืองระนอง ดังนั้น หลักเกณฑ์และขั้นตอนต่าง ๆ ในการยื่นคำขอรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น รวมตลอดถึงกระบวนการสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ สำหรับกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นดังกล่าว จึงต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบ และบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานของรัฐและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

                อย่างไรก็ดี การดำเนินการรับคำขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น และสอบข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ในพื้นที่อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง มีขั้นตอนสำคัญ ได้แก่ 1) ชี้แจงกระบวนการยื่นคำขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น  2) ตรวจสอบเอกสารประกอบคำขอ 3)ประเมินอุปสรรคและให้คำแนะนำแก่ผู้ยื่นคำขอ 4) สอบปากคำผู้ยื่นคำขอและพยาน จำนวน 2 ราย เพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ มีผู้ที่สามารถยื่นคำขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น 18 ราย ขอเพิ่มชื่อตามข้อ 103 ของระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร จำนวน 20 ราย ขอดำเนินการตามมาตรา 38 วรรคสอง ตาม พ.ร.บ. การทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 จำนวน 5 ราย แก้ไขข้อมูลรายการ มาตรา 9/6 แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2508 จำนวน 16 ราย ยื่นคำขอหนังสือรับรองการเกิด (แบบ ทร.20/1) จำนวน 1 ราย ส่งต่อคำขอไปยังสำนักทะเบียนอำเภออื่น จำนวน 3 ราย รอผลการตรวจพิสูจน์ DNA จำนวน 1 ราย และขอคำปรึกษา เกี่ยวกับการยื่นคำขอ จำนวน 333 ราย รวมจำนวนผู้มาขอรับบริการทั้งสิ้น 397 ราย

                กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การดำเนินการโครงการในครั้งนี้ว่า เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสิทธิและสถานะบุคคล กลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ได้เห็นชอบในหลักการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ซึ่งได้มีกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นในพื้นที่ 7 จังหวัด ประมาณ 4,700 คน โดยจังหวัดระนองเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายตามมติคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ทั้งนี้ การออกหน่วยคลินิกสิทธิมนุษยชนเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิและสถานะ กลุ่มคนไทยพลัดถิ่น มีกำหนดจะออกหน่วยครั้งถัดไปที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

                การดำเนินการรับคำขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น และสอบข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณารับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น จะนำไปสู่การได้รับสัญชาติตามคุณสมบัติที่พึงได้รับตามหลักกฎหมาย สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อ 16 ที่กำหนดว่า บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลตามกฎหมายในทุกหนแห่ง

เลื่อนขึ้นด้านบน