เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2568 ที่โรงแรม ซี. เอส. ปัตตานี จังหวัดปัตตานี ผศ.สุชาติ เศรษฐมาลินี  กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาวรตญา  กอบศิริกาญจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อประสานความร่วมมือด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของสถาบันศึกษาปอเนาะ สำหรับผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาของสถาบันศึกษาปอเนาะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการประสานความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน กสม. ยูนิเซฟ ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและพัฒนากลไกการดูแลและคุ้มครองเด็กที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน โดยมีกำหนดการดังนี้

          กิจกรรมในช่วงเช้าของวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ  และผศ. อับดุลเลาะ หนุ่มสุข ผู้ทรงคุณวุฒิที่ปรึกษาของจุฬาราชมนตรี นำเสนอข้อมูลในหัวข้อ บทบาทผู้นำศาสนาในการวางรากฐานตัรบีย์ที่เคารพสิทธิและศักดิ์ศรีของเด็ก หลังจากนั้น รศ. อาดัม นีละไพจิตร สถาบันราชสุดา โรงพยาบาลรามาธิบดี นำเสนอข้อมูลในหัวข้อ มุมมองการสร้างความเข้าใจ: การควบคุมความคิดและพฤติกรรมของตนเอง ลักษณะของเด็กที่มีความต้องการพิเศษและการคัดกรองสุขภาพใจ การประเมินบุคลิกภาพกับการดูแลตัวเองของผู้ดูแลเด็กและเยาวชน (Self Care) โดยช่วงสุดท้ายเป็นการฝึกทักษะการดูแลของผู้ดูแลเด็กและเยาวชน

          สำหรับวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ช่วงเช้า รศ. อาดัม นำเสนอข้อมูลในหัวข้อ Deep Listening - การฟังด้วยหัวใจ: ทักษะการดูแลสุขภาพใจเบื้องต้น ส่วนในช่วงบ่าย  กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้นำเสนอข้อมูลหัวข้อ สิทธิมนุษยชนและสิทธิเด็กในบริบทสถาบันศาสนาอิสลาม: บทบาทของผู้นำศาสนาในการปกป้องเด็ก และการพัฒนาแนวนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน ในการดำเนินงานของสถาบันศึกษาปอเนาะเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมที่เคารพสิทธิมนุษยชน จากนั้น นางสาวอลิญา หมัดหมาน เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก องค์การยูนิเซฟประเทศไทย นำเสนอข้อมูลในหัวข้อ แนวปฏิบัติในการปกป้องให้เด็กปลอดภัยและมีสุขภาวะที่ดี

และในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ช่วงเช้า ได้มีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นของผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ  และ ผศ.สุชาติ เศรษฐมาลินี  กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้กล่าวสรุปและขอบคุณผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ก่อนปิดการประชุมดังกล่าวในช่วงบ่าย

          ตลอดสามวันของการประชุม ผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเห็นว่า บทบาทของสถาบันศึกษาปอเนาะมีความสำคัญต่อการจัดการศึกษา การดูแลด้านสวัสดิการและการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยนำองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนมาบูรณาการกับหลักทางศาสนา วัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่จะนำไปสู่การส่งเสริมวัฒนธรรมที่เคารพสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ เสนอให้จัดกิจกรรมสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจแก่ผู้นำศาสนาหรือผู้แทน และผู้ช่วยผู้นำศาสนา อย่างต่อเนื่องในประเด็นเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิเด็ก ทักษะการให้คำปรึกษา การดูแลเด็กและเยาวชนด้านสุขภาพจิต ตลอดจนการพัฒนานโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนของสถาบันศึกษา เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการส่งเสริมและคุ้มครองอย่างเหมาะสม

          คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นความสำคัญของส่งเสริมบทบาทของผู้นำศาสนาในการดูแลเด็กและเยาวชนภายใต้บริบทของศาสนาและวัฒนธรรม ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนศึกษาในพื้นที่ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชนที่จะทำไปสู่การสร้างสรรค์สังคมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชน