กสม. หารือภาคประชาสังคมเกี่ยวกับสถานการณ์และแนวทางการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในเมียนมา

01/08/2568 151

          เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ประธาน กสม. พรประไพ กาญจนรินทร์ พร้อมด้วยที่ปรึกษาประจำ กสม. รัตติกุล จันทร์สุริยา เลขาธิการ กสม. หรรษา หอมหวล ผู้อำนวยการสำนักสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ศศิพิมพ์ อร่ามพิบูลกิจ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. หารือกับภาคประชาสังคม ประกอบด้วย ผู้อำนวยการบริหาร FORUM-ASIA Mary Aileen Diez-Bacalso และผู้ก่อตั้งและประธานองค์กร Progressive Voice (PV) Khin Ohmar พร้อมด้วยผู้แทนจาก CSO Working Group on Independent National Human Rights Institutions in Burma/Myanmar และคณะ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และข้อกังวลด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา และแนวทางการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในระยะต่อไป

          ผู้แทนภาคประชาสังคมให้ข้อมูลสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาว่า นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564 สถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น โดยพบการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวเมียนมาที่เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างกว้างขวาง การสู้รบระหว่างรัฐบาลทหารและกองกำลังชาติพันธุ์หลากหลายกลุ่ม รวมถึงการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อพลเรือน ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นทั้งในประเทศและข้ามพรมแดนรวมถึงเข้าสู่ประเทศไทย องค์กร PV และเครือข่ายได้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมาในพื้นที่ต่าง ๆ แต่พบว่าหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม 2568 การให้ความช่วยเหลือทำได้ยากลำบากมากขึ้น

          นอกจากนี้ ผู้แทนภาคประชาสังคมยังแสดงความห่วงกังวลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของเมียนมา (Myanmar National Human Rights Commission: MNHRC) หลังการรัฐประหาร และสมาชิกภาพของ MNHRC ในกรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia National Human Rights Institutions Forum: SEANF) ด้วย

          ประธาน กสม. รับทราบสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาและข้อห่วงกังวลของภาคประชาสังคม และกล่าวว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนประเด็นสมาชิกภาพของ MNHRC นั้น SEANF อยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขระเบียบข้อบังคับเพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยประธาน กสม. เน้นย้ำความสำคัญของหลักการปารีส และการทำงานคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นอิสระ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายแสดงความมุ่งมั่นที่จะประสานความร่วมมือเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคร่วมกันต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน