วันที่ 23-24 กรกฎาคม 2568 นายวสันต์  ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสรวงมณฑ์  สิทธิสมาน ที่ปรึกษาประจำ กสม. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดนครราชสีมาเพื่อรับฟังข้อมูลและความเห็นกรณีมวยเด็ก (พื้นที่ภาคอีสาน) โดยมีกิจกรรม ดังนี้

          วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะ ลงพื้นที่รับฟังความเห็นจากหัวหน้าค่ายมวย เทรนเนอร์ และตัวแทนนักมวยเด็ก จากค่ายมวย ท.เทพซุนกวน และค่ายมวย พ.เพชรโพธิ์ทอง ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์ (กกท.บุรีรัมย์) และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกท.บุรีรัมย์

          วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะ ลงพื้นที่รับฟังความเห็นจากค่ายมวยศิษย์บุญมี อำเภอประโคนชัย ค่ายมวย ว.วัฒนะ อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ และค่ายมวย TK.ยุทธนา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยมีหัวหน้าค่ายมวย เทรนเนอร์ ตัวแทนนักมวยเด็ก และตัวแทนผู้ปกครอง ร่วมให้ข้อมูล ความเห็น และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา

          สำหรับการรับฟังความเห็นข้างต้นแบ่งเป็น 4 ประเด็น ได้แก่ (1) ข้อมูลทั่วไป ที่มา เหตุผลของการก่อตั้งค่ายมวย จำนวนนักมวย/เทรนเนอร์ และรูปแบบฝึกซ้อมและการดูแลนักมวยเด็ก ทั้งก่อนการชก ระหว่างการชก และหลังการชก รวมทั้งการขออนุญาตขึ้นทะเบียนนักมวยเด็กและจัดตั้งค่ายมวย (2) ปัญหาและอุปสรรคที่พบ โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพของนักมวยเด็กในระยะยาว ปัญหาสวัสดิการนักมวยเด็ก ปัญหาการพนันมวยเด็กและการแสวงประโยชน์จากเด็ก (3) มาตรการด้านความปลอดภัยและการคุ้มครองเด็ก อาทิ การจัดหาอุปกรณ์ป้องกันที่ได้มาตรฐานสำหรับมวยเด็ก การออกกฎ กติกา ระเบียบ และแนวปฏิบัติการฝึกซ้อมและการแข่งขันชกมวยเด็กที่มีมาตรฐาน (4) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

          ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. จะรวบรวมข้อมูล ความเห็น และข้อเสนอแนะที่ได้รับไปประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน กรณีมวยเด็ก เพื่อเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ