กสม. ศยามล ประชุมติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะ กสม. กรณีคุ้มครองสิทธิชุมชนชายฝั่งทะเล ซึ่งกรมเจ้าท่าได้เตรียมแก้กฎหมายยกเว้นค่าตอบแทนการใช้พื้นที่ทางน้ำให้ “ชุมชนชายฝั่งทะเลดั้งเดิม” เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และส่งเสริมสิทธิชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม

25/07/2568 87

          เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม 605 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายไพโรจน์  พลเพชร ที่ปรึกษาประจำ กสม. ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนกรมเจ้าท่า และผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ 175/2567 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2567 กรณีที่อยู่อาศัยของชุมชนชายฝั่งทะเลตามวิถีวัฒนธรรม ถูกกำหนดให้เป็นสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำซึ่งต้องขอใบอนุญาตและเสียค่าตอบแทนเป็นรายปี ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 มาตรา 117 ทวิ และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดย กสม. เสนอแนะให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กำหนดหลักเกณฑ์ในการรับรองชุมชนชายฝั่งทะเลตามวิถีวัฒนธรรม และกระทรวงคมนาคมร่วมกับกรมเจ้าท่า แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยยกเว้นอัตราค่าตอบแทนล่วงล้ำลำแม่น้ำ ให้กับเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตชุมชนชายฝั่งทะเลที่ได้รับการรับรองโดยองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

          จากการประชุม นายวิวัธฒ์  ชิดเชิดวงศ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านความปลอดภัย และคณะ ได้ให้ข้อมูลว่า กรมเจ้าท่ารับหลักการ เตรียมแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นค่าตอบแทนดังกล่าวแล้ว นับเป็นก้าวสำคัญในการคุ้มครองสิทธิและลดภาระค่าใช้จ่ายให้ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอร่างกฎหมาย เมื่อผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว จะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจาก อปท. ทั่วประเทศเป็นลำดับถัดไป คาดหมายว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 6 เดือน

          กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเน้นย้ำว่า การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ คือการรับรองสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญ และยกระดับความเข้มแข็งของชุมชนชายฝั่งทะเลดั้งเดิมที่มีการใช้พื้นที่ริมน้ำและชายฝั่งทะเลที่สัมพันธ์กับวัฒนธรรม โดยในระหว่างนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นควรมีบทบาทเชิงรุกเร่งในการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการรับรอง "ชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม" เป็นแนวทางอย่างกว้าง และสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ เพื่อให้ อปท. ทั่วประเทศเตรียมความพร้อมหารือกับชุมชนในพื้นที่ของตนเอง ในการจัดทำแผนที่ชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม กำหนดรายละเอียดเกณฑ์ เงื่อนไข หรือข้อบังคับชุมชน (เช่น ประเภทวัสดุในการก่อสร้าง วิธีการใช้ประโยชน์พื้นที่ริมน้ำ การจัดการของเสีย การรักษาสิ่งแวดล้อม) ในรูปของข้อบัญญัติท้องถิ่นที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่นั้น ๆ ทั้งนี้ การแก้ไขกฎกระทรวงและการมอบหมายบทบาทที่ชัดเจนให้ อปท. นี้ จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างรัฐธรรมนูญกฎหมายสูงสุดกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน ซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันและคลี่คลายความขัดแย้งได้ โดย กสม. จะติดตามการจัดรับฟังความคิดเห็นและการออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ ต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน