เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมกรีน 2 โรงแรมกรีน โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดขอนแก่น นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายบุญแทน  ตันสุเทพวีรวงศ์ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายภาณุพันธ์  สมสกุล ที่ปรึกษาสำนักงาน กสม. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนด้านแรงงาน และการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 และอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว โดยระดมความคิดเห็นจากตัวแทนของแรงงานกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 โดยผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการประกอบด้วย ตัวแทนของแรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ แรงงานแพลตฟอร์ม แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ แรงงานข้ามชาติ พนักงานบริการ และแรงงานจ้างเหมาบริการ

           การประชุมดังกล่าว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาของแรงงานกลุ่มต่าง ๆ ที่ยังคงถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนผลการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นจากตัวแทนของกลุ่มแรงงานสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

           1) กลุ่มแรงงานในระบบเสนอให้แก้ไขปัญหาการจ้างงานในรูปแบบที่ไม่มั่นคงและสัญญาจ้างที่ไม่เป็นธรรม

           2) กลุ่มแรงงานนอกระบบเสนอให้เพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40 ในการคุ้มครองความเป็นมารดาและการว่างงาน และผลักดันให้ลูกจ้างทำงานบ้านเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33

           3) กลุ่มแรงงานแพลตฟอร์มเสนอให้มีการคุ้มครองแรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐานการจ้างงานและหลักสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐาน และมีมาตรการหรือกลไกในการกำกับดูแลธุรกิจแพลตฟอร์ม

           4) กลุ่มแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศเสนอให้มีการส่งออกแรงงานแบบรัฐต่อรัฐเพื่อป้องกันการถูกหลอกและเอารัดเอาเปรียบแรงงาน

           5) กลุ่มแรงงานข้ามชาติเสนอให้แก้ไขปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพและการร้องเรียน เนื่องจากขาดแคลนล่าม การเข้าไม่ถึงการศึกษาของเด็กติดตามแรงงาน การขึ้นทะเบียนแรงงานที่มีขั้นตอนซับซ้อนและค่าใช้จ่ายสูง

           6) กลุ่มพนักงานบริการเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายที่มีโทษทางอาญากับพนักงานบริการ และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน 

           7) กลุ่มแรงงานจ้างเหมาบริการต้องการให้แก้ไขปัญหาการจ้างงานที่ไม่มั่นคงและการจ่ายเงินเดือนล่าช้า

           นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประชุมต่างเห็นว่าการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว รวมถึงอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 จะเป็นประโยชน์และช่วยยกระดับการคุ้มครองและคุณภาพชีวิตของแรงงานของประเทศไทย

           อนึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นเพื่อรับฟังจากกลุ่มแรงงานในระดับภูมิภาค คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จะได้รวบรวมข้อมูลและผลจากการระดมความคิดเห็นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน นอกจากนี้ ในงานดังกล่าว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายลูกจ้างนักการภารโรงสี่ภาคที่ถูกปรับเปลี่ยนการจ้างงานเป็นแบบจ้างเหมาไว้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของ กสม. ต่อไป