เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พรประไพ  กาญจนรินทร์ และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ วสันต์  ภัยหลีกลี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ  เศรษฐมาลินี พร้อมด้วยเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เพื่อชี้แจงรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2567 และรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุมวุฒิสภา อาคารรัฐสภา

           โอกาสนี้ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ชี้แจงพร้อมตอบข้อซักถามจากสมาชิกวุฒิสภา โดยในส่วนรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2567 ประกอบด้วย 4 ด้านหลัก ได้แก่ สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม สิทธิมนุษยชนของกลุ่มบุคคล และสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีข้อเสนอแนะในประเด็นที่เป็นข้อท้าทายต่าง ๆ ไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 41 หน่วยงาน รวมทั้งสิ้น 159 ข้อ ซึ่ง กสม. ได้ติดตามการดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และจะนำข้อมูลความคืบหน้าไปประกอบการจัดทำรายงานผลการประเมินสถานการณ์ฯ ในปีต่อไป

สำหรับรายงานผลการปฏิบัติงาน กสม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กสม. ได้นำเสนอผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1. ด้านการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน 2. ด้านการเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 3. ด้านการจัดทำรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย 4. ด้านการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน 5. ด้านการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย และ 6. ด้านความร่วมมือกับกลไกสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขหน้าที่และอำนาจของ กสม. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและช่วยให้ กสม. สามารถปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

           ทั้งนี้ สมาชิกวุฒิสภาได้อภิปรายแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตในหลายประเด็น อาทิ สิทธิในกระบวนการยุติธรรม การกระทำทรมานและบังคับให้บุคคลสูญหาย นักปกป้องสิทธิมนุษยชน สิทธิด้านการศึกษา สิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และสิทธิเด็ก รวมถึงให้ข้อสังเกตและคำแนะนำในการปฏิบัติหน้าที่ของ กสม. เพื่อยกระดับการปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย อาทิ การทำงานของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคร่วมกับเครือข่ายหรือภาคประชาสังคมในพื้นที่ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้แก่ประชาชน ซึ่ง กสม. รับคำแนะนำและข้อเสนอแนะของสมาชิกวุฒิสภาเพื่อนำไปพัฒนาการทำงานและขับเคลื่อนเรื่องการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนร่วมกับภาคีเครือข่ายให้รอบด้านและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น