กสม. ศยามล ประชุมติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ กสม. กรณีโครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำภายในประเทศที่ร่องน้ำแควหนุมาน จ.ปราจีนบุรี เกี่ยวกับการแก้ไขและป้องกันปัญหาการพังทลายของคันดินริมตลิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

07/07/2568 115

          เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.ศนิ  ลิ้มทองสกุล ผู้ทรงคุณวุฒิของ กสม. ศึกษาวิจัยด้านภูมิสถาปัตยกรรม และคณะ ลงพื้นที่ประชุมติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ กสม. กรณีโครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำภายในประเทศที่ร่องน้ำแควหนุมาน จังหวัดปราจีนบุรี เกี่ยวกับการแก้ไขและป้องกันปัญหาการพังทลายของคันดินริมตลิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอีก โดย เวลา 10.30 น. ลงพื้นที่ดูสภาพพื้นที่ร่องน้ำแควหนุมาน พบว่ามีการพังทลายของคันดินโดยเฉพาะในช่วงร่องน้ำที่มีความโค้ง และอยู่ระหว่างสร้างเขื่อนป้องกันการพังทลายของคันดินริมตลิ่ง ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จากนั้น เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมหนุมาน ชั้น 2 อาคาร 2 เทศบาลตำบลกบินทร์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะ ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กลุ่มประสานงานลุ่มน้ำบางปะกง) ผู้แทนชุมชนและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกบินทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลนาแขม องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองเก่า และผู้ร้อง/ผู้ได้รับผลกระทบ

          ผลการประชุมสรุปได้ว่าสภาพพื้นที่แควหนุมานเป็นดินเลนปนทราย ร่องน้ำมีความคดเคี้ยวในช่วงโค้งของร่องน้ำความแรงของกระแสน้ำกัดเซาะคันดินริมตลิ่งพังทลายลงอย่างง่ายดาย ทั้งยังไม่มีต้นไม้ที่จะช่วยยึดป้องกันการพังทลายของดิน ชาวบ้านร้องเรียนความเดือดร้อนขอให้แก้ปัญหาการพังทลายของตลิ่งอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ หน่วยงานช่วยเหลือชาวบ้านโดยการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งซึ่งเป็นวิธีการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว แต่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของสัตว์น้ำในแควทำให้มีจำนวนลดน้อยลง ต้องทำลายต้นไม้ริมตลิ่งที่จะช่วยยึดดินไปจำนวนมาก กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงเห็นว่าควรมีการประเมินผลวิธีดำเนินการแก้ปัญหาในรูปแบบเดิมที่หน่วยงานรัฐทำอยู่ว่าได้ผลคุ้มค่าหรือไม่ ทั้งต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่อระบบนิเวศที่ถูกทำลาย และต่อการใช้ประโยชน์ของชุมชน

          ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. จะมีหนังสือถึงสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการลุ่มน้ำบางปะกงและแควหนุมานเป็นลำน้ำสาขา ในการประเมินผลความคุ้มค่าและขอให้แสวงหานวัตกรรมใหม่ ๆ ในการป้องกันการพังทลายของตลิ่ง โดยเฉพาะแนวทางแก้ปัญหาตามธรรมชาติ (Nature-based solutions : NbS) เพื่อความยั่งยืนของสุขภาพแม่น้ำ ที่มีความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและความสามารถในการให้บริการต่าง ๆ แก่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ซึ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตและสวัสดิภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

เลื่อนขึ้นด้านบน