กสม. วสันต์ ประชุมขับเคลื่อนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อคุ้มครองสิทธิเด็ก อันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิทางการศึกษา กรณีปิดศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างด้าว

03/07/2568 154

          เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. นายวสันต์  ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสรวงมณฑ์  สิทธิสมาน ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นางสาวพิมพ์ดาว  จันทรขันตี ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. จัดประชุมขับเคลื่อนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อคุ้มครองสิทธิเด็ก อันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิทางการศึกษา กรณีปิดศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างด้าว โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ผู้แทนกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้แทนกรมกิจการเด็กและเยาวชน ผู้แทนกรมการจัดหางาน ผู้แทนมูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท ผู้แทนมูลนิธิช่วยไร้พรมแดน ผู้แทนมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ผู้แทนมูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ผู้แทนมูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย-FAIR ผู้แทนสมาคมพราว ผู้แทนคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อผู้อพยพย้ายถิ่น (NCCM) และผู้แทนกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ประเทศไทย ณ ห้องประชุม Lotus โรงแรมรามาการ์เด้นส์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

          ในการประชุมดังกล่าว ที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิเด็ก โดยเฉพาะด้านการศึกษา โดยมีข้อเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้ 1) เร่งสร้างความเข้าใจกับหน่วยงานทางการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 และไม่ดำเนินมาตรการใด ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างด้าวในระหว่างดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว 2) เปิดโอกาสให้ผู้จัดการเรียนการสอนให้แก่เด็กต่างด้าวจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างด้าวในพื้นที่ที่มีเด็กต่างด้าวจำนวนมาก ไม่เฉพาะในเขตพื้นที่ชายแดน และ 3) เร่งรัดปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้ศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างด้าวมีสถานะถูกต้องตามกฎหมาย

          ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จะติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาของกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานของรัฐ และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ต่อไป เพื่อให้เด็กทุกคนได้เข้าถึงสิทธิด้านการศึกษาอย่างเหมาะสมและทั่วถึง

เลื่อนขึ้นด้านบน