เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร นางสาวปิติกาญจน์  สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวปฏิบัติของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังข้อมูล ข้อท้าทายในการปฏิบัติงานของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ในฐานะที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นหน่วยงานสำคัญรับผิดชอบภารกิจตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ

          ในการนี้ ร้อยตำรวจเอกโชคชัย  สิทธิผลกุล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน กล่าวต้อนรับ และนายวัชรินทร์  ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน กล่าวถึงเขตอำนาจ และหน้าที่หลักของสำนักงานการสอบสวนซึ่งมีหลายส่วน เช่น ความผิดนอกราชอาณาจักร การเสียชีวิตในระหว่างควบคุมตัว รวมถึงภารกิจตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ด้วย

          ต่อมา นางสาววณี  เกษตรธรรม อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 นางสาวทักษอร  สุวรรณสายะ และนางสาวบุษยภา  เมณฑกา อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ กรุงเทพมหานคร และผลการดำเนินงานในช่วง 2 ปี ของการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. การรับแจ้งการควบคุมตัว (มาตรา 22) 2. การรับแจ้งจากผู้พบเห็นหรือทราบเหตุ (มาตรา 29) 3. การยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ยุติการกระทำทรมาน (มาตรา 26) 4. การร้องทุกข์/กล่าวโทษ อำนาจสอบสวน (มาตรา 31) รวมถึง ภารกิจจัดเวรเจ้าหน้าที่เพื่อรับแจ้งเหตุดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ กรุงเทพมหานคร ยังรับหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางรวบรวมข้อมูล สถิติที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของศูนย์ฯ ต่าง ๆ ทั่วประเทศภายใต้สำนักงานอัยการสูงสุดด้วย

         ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง กสม. และสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นไปตามแผนกิจกรรมการติดตามและขับเคลื่อนข้อเสนอแนะตามข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประเด็นสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ในส่วนขับเคลื่อนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ กสม. โดยในช่วงท้ายคณะ กสม. ได้เยี่ยมชมศูนย์ป้องกันศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ภายในสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ด้วย