กสม. ศยามล เป็นวิทยากรเสวนา เรื่อง “การกระจายอำนาจการจัดการช้างป่าสู่ท้องถิ่น และความยุติธรรมบนเส้นทางช้างป่า”

05/06/2568 245

          เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น. นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นวิทยากรเสวนา เรื่อง “การกระจายอำนาจการจัดการช้างป่าสู่ท้องถิ่น และความยุติธรรมบนเส้นทางช้างป่า” ในกิจกรรมช่วยช้างกลับป่า#3 จัดโดย สภาองค์กรชุมชน กลุ่มคนกับช้างทุ่งพระยา และศูนย์เรียนรู้ช้างป่าภาคตะวันออก ณ โรงเรียนบ้านคลองยายสร้อย ตำบลทุ่งพระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับ นายวรพงศ์  อุตทานนท์ตรี อดีตผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายตาล  วรรณกูล กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานและศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืนรวมทั้งมาตรการเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นายพิเชฐ  นุ่นโต เลขานุการสมาคมนิเวศยั่งยืน และหัวหน้าโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าในพื้นที่ชุมชน ภาคตะวันออก ประเทศไทย

          วงเสวนากล่าวถึงการกระจายอำนาจช่วยในการจัดการช้างป่า โดยการเพิ่มหน้าที่และอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีสถานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 สามารถดำเนินการจัดการปัญหาช้างป่าที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชนด้วยงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมีงบประมาณอุดหนุนจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สนับสนุนการดำเนินงานและการเยียวยาผลกระทบ ดังนั้น ประชาชนโดยสภาองค์กรชุมชนต้องผลักดัน อปท. ให้ใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่แท้จริงอย่างปัญหาช้างป่า

ในส่วนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้มีข้อเสนอต่อรัฐบาลเกี่ยวกับกลไกการจัดการปัญหาช้างป่าของ อปท. ดังนี้

1. ต้องมีการรวบรวมข้อมูลช้างป่าในพื้นที่ ได้แก่ จำนวนประชากรช้าง เส้นทางเดินและพฤติกรรมของช้างป่า ผลกระทบต่อชุมชน ปัญหาและอุปสรรค ข้อมูลถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบจัดตั้งเป็นศูนย์ข้อมูลช้างป่าของชุมชน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาของส่วนราชการในการแก้ไขปัญหาระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นไป

2. จัดทำแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่า ที่สอดคล้องกับระบบนิเวศและเส้นทางของช้างป่า เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสำหรับแต่ละพื้นที่ เพื่อเสนอของบประมาณทั้งจาก อปท. และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

3. จัดตั้งเครือข่ายระดับตำบลต้องทำงานร่วมกัน เพื่อมิให้การผลักดันช้างป่าจากตำบลหนึ่งไปส่งผลกระทบกับอีกตำบลหนึ่ง

4. ประเมินผลการจัดการช้างป่าประจำปี เพื่อพัฒนาเครื่องมือในการจัดการปัญหา และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่าย

5. รับคำร้องและแสวงหาข้อเท็จจริง ประเมินความเสียหายเบื้องต้น เพื่อประสานความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้เข้าถึงการเยียวยาตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

เลื่อนขึ้นด้านบน