กสม. ศยามล รับฟังข้อมูลจากผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR) ติดตามความคืบหน้าในการจัดทำปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิทางสิ่งแวดล้อม

31/05/2568 164

.              เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.30  น. ที่ห้องประชุม 709 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายไพโรจน์ พลเพชร ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  และนางสาวหรรษา หอมหวล เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประชุมหารือร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชน ประจำปี พ.ศ. 2568  ประเด็นสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี ครั้งที่ 2/2568 โดยมีระเบียบวาระการประชุมสำคัญหนึ่งคือ แนวทางการขับเคลื่อนร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิทางสิ่งแวดล้อม โดยได้เชิญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภาณุภัทร จิตเที่ยง ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR) ร่วมให้ข้อมูลความคืบหน้าในการจัดทำร่างปฏิญญาดังกล่าวในปัจจุบัน

               การหารือในประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีนโยบายขับเคลื่อนประเด็นสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดีร่วมกับ AICHR โดยได้ร่วมกันผลักดันให้มีกรอบแนวทางการขับเคลื่อนร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิทางสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีแนวทางการปฏิบัติ มาตรฐาน และข้อผูกพันระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัย โดยได้ร่วมกันจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นระดับชาติต่อร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิในสิ่งแวดล้อม (National Consultation on the Draft ASEAN declaration on environmental rights) เมื่อวันที่ 25 – 26 เมษายน 2567 โดยปัจจุบันประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีการประชุมตามกลไกแต่ละระดับเพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมกันของแต่ละประเทศสมาชิกในการขับเคลื่อนปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิทางสิ่งแวดล้อม การประชุมในครั้งนี้ (29 พฤษภาคม 2568) จึงเป็นโอกาสที่ผู้แทนไทยใน AICHR ให้เกียรติมาร่วมให้ข้อมูลความคืบหน้าในการจัดทำร่างปฏิญญาดังกล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการสำคัญของปฏิญญาฯ ที่แต่ละประเทศสมาชิกเห็นชอบ แนวทางการดำเนินงาน รวมทั้งการจัดทำแผนงานระดับภูมิภาคร่วมกัน

               ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภาณุภัทร จิตเที่ยง ผู้แทนไทยใน AICHR ได้เสนอแนะต่อที่ประชุมว่าหากร่างปฏิญญาดังกล่าวสามารถจัดทำได้แล้วเสร็จโดยความเห็นพ้องของทุกประเทศสมาชิก เห็นควรให้ประเทศไทยโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้นำในการจัดทำแผนปฏิบัติการตามปฏิญญาฯ ระดับประเทศไทยที่สอดคล้องกับบริบทและมิติสิทธิมนุษยชนของประเทศ เพื่อเป็นแนวทางให้แก่ประเทศสมาชิก รวมทั้งเป็นผู้นำของอาเซียนในการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคอาเซียนร่วมกันต่อไป โดยมี กสม. กับ AICHR ประเทศไทยเป็นหน่วยเชื่อมประสานผลักดันให้การดำเนินงานดังกล่าวเป็นรูปธรรม

เลื่อนขึ้นด้านบน