เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมบีบี 201 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายบุญแทน  ตันสุเทพวีรวงศ์ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาวหรรษา  หอมหวล เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนด้านแรงงาน และการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 และอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว โดยระดมความคิดเห็นจากตัวแทนของแรงงานกลุ่มต่าง ๆ เพื่อกำหนดประเด็นปัญหาด้านสิทธิแรงงานที่ต้องการขับเคลื่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการประกอบด้วย นักวิชาการด้านแรงงาน ตัวแทนของแรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ แรงงานแพลตฟอร์ม แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ แรงงานข้ามชาติ พนักงานบริการ แรงงานจ้างเหมาบริการ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม.

            การประชุมดังกล่าว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้กล่าวเปิดงานและอธิบายถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการประชุมเชิงในครั้งนี้ และร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ปัญหาด้านแรงงานกลุ่มต่าง ๆ ที่ยังคงถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

            ในส่วนของการบรรยายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยนายศักดินา  ฉัตรกุล ณ อยุธยา นักวิชาการอิสระด้านแรงงานให้ข้อมูลเกี่ยวกับพลวัตรและความท้าทายในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจ้างงานและสิทธิแรงงานในประเทศไทย กรอบแนวคิดการจ้างงานที่เป็นธรรม รวมถึงสถานการณ์ของแรงงาน และข้อเสนอแนะเพื่อการคุ้มครองสิทธิแรงงาน ในส่วนของผู้ช่วยศาสตราจารย์นันทพล  พุทธพงษ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว

            ส่วนของผลการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นจากตัวแทนของกลุ่มแรงงานเพื่อกำหนดประเด็นในการขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน โดยสรุปสาระสำคัญได้ว่า กลุ่มแรงงานในระบบเสนอแนะให้ยกเลิกการจ้างงานที่ไม่มั่นคงทุกรูปแบบ กลุ่มแรงงานนอกระบบให้คุ้มครองและส่งเสริมความมั่นคงทางอาชีพ กลุ่มแรงงานแพลตฟอร์มผลักดันให้ไรเดอร์มีสถานะเป็นแรงงานตามกฎหมายแรงงาน กลุ่มแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศเร่งรัดให้หน่วยงานดำเนินคดีค้ามนุษย์และการเบิกจ่ายจากกองทุนต่าง ๆ เพื่อเยียวยาความเสียหายกลุ่มแรงงานข้ามชาติผลักดันการขึ้นทะเบียนแรงงานที่สะดวกและเสียค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสมโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ กลุ่มพนักงานบริการให้ยกเลิกกฎหมายที่มีโทษทางอาญากับพนักงานบริการ กลุ่มแรงงานจ้างเหมาบริการให้แก้ไขปัญหาการจ้างงานที่ไม่มั่นคงและทำให้หลุดออกจากระบบประกันสังคม นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยกับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัวและอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 เพื่อยกระดับการคุ้มครองและคุณภาพชีวิตของแรงงาน

            ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จะได้นำข้อมูลและผลจากการระดมความคิดเห็นไปรับฟังภาคีเครือข่ายด้านแรงงานในระดับภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน ในการนี้ นางสาวสุภัทรา ได้รับเรื่องร้องเรียนของตัวแทนสหพันธ์ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย กรุงเทพมหานคร กรณีขอให้ตรวจสอบการบริหารจัดการหาบเร่แผงลอยของกรุงเทพมหานคร และเรื่องร้องเรียนของตัวแทนสหภาพคนทำงานต่างประเทศแห่งประเทศไทย (MWUT) กรณีการไร้สิทธิและเสียงของคนงานไทยในการเจรจาด้านแรงงานเก็บเบอร์รี่ป่าที่ประเทศฟินแลนด์ โดยกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะรับไว้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของ กสม. ต่อไป