วันที่ 23 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นวิทยากรร่วมกับ รศ.ดร. ศุภศิษฏ์  ทวีแจ่มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการสัมมนาและแลกเปลี่ยนความเห็น เรื่อง การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนด้านแรงงาน และการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการขับเคลื่อนงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิแรงงาน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการสัมมนา ประกอบด้วย ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. และภาคประชาสังคมด้านแรงงาน จำนวนกว่า 60 คน ณ ห้องประชุม 709 และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting

             ในเวทีสัมมนาดังกล่าว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แลกเปลี่ยนสถานการณ์ปัญหาด้านแรงงานในกลุ่มของแรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ แรงงานแพลตฟอร์ม แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ แรงงานข้ามชาติ พนักงานบริการ และแรงงานจ้างเหมาบริการ ซึ่งยังคงมีปัญหาการไม่ได้รับความคุ้มครองด้านแรงงานอย่างเหมาะสม และถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งบางส่วนได้ร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาหลักด้านสิทธิมนุษยชนจำนวน 8 ฉบับ จาก 9 ฉบับ จึงเหลือฉบับสุดท้ายคืออนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว ซึ่งจะให้การคุ้มครองแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานทั้งแรงงานที่มีเอกสารและแรงงานที่ไม่มีเอกสาร

             ในส่วนของ รศ.ดร.ศุภศิษฏ์ ได้นำเสนอสถานการณ์ด้านแรงงานที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างก้าวกระโดด และมีโอกาสที่จะขาดแคลนแรงงานโดยเฉพาะในงานสกปรก งานอันตราย งานเกษตรกร งานไร้ฝีมือส่งผลให้มีความจำเป็นต้องใช้แรงงานข้ามชาติเพื่อให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการด้านสิทธิแรงงาน ทั้งหลักการเคารพเสรีภาพในการประกอบอาชีพ ซึ่งนำไปสู่การได้ทำงานที่มีคุณค่า (decent work) หลักความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติในการจ้างงาน การคุ้มครองแรงงานตามอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี เช่น อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามแรงงานบังคับ ค.ศ. 1930 (ฉบับที่ 29) อนุสัญญาว่าด้วยกรอบการส่งสริมความปลอดภัยและชีวอนามัยในการทำงาน ค.ศ. 2006 (ฉบับที่ 187) รวมถึงหลักการสำคัญของอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว เช่น หลักความเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติ สิทธิมนุษยชนพื้นฐานของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว และสิทธิเฉพาะสำหรับแรงงานที่มีเอกสาร นอกจากนี้ได้เปิดให้ผู้เข้าร่วมได้อภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในช่วงท้าย

             ทั้งนี้ การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ฉบับนี้ จะทำให้แรงงานโยกย้ายถิ่นฐานได้รับการคุ้มครองที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนในงานสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ของ กสม. เพื่อให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าวต่อไป