กสม. ศยามล รับฟังข้อเท็จจริงประกอบการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีผลกระทบจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขงสายประธาน

14/03/2568 276

            เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม 709 สำนักงาน กสม. นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางรัตติกุล จันทร์สุริยา และนางสาวมณีรัตน์ มิตรปราสาท ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประชุมรับฟังข้อเท็จจริง กรณีประชาชนในพื้นที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขงสายประธาน โดยที่โครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินไทย

            จากการรับฟังข้อเท็จจริง สรุปได้ว่า ตามหลักธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน จะต้องมีความรับผิดชอบและเคารพสิทธิมนุษยชนในทุกการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในโครงการ โดยปัจจุบันสถาบันการเงินไทยได้นำหลักการที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNGPs) การประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน (Environmental, Social, and Governance หรือ ESG) และหลักการอีเควเตอร์ (Equator Principles หรือ EP) มาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อสำหรับโครงการที่มีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งในทางปฏิบัติได้มีการจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษามาช่วยให้ความเห็นประกอบการพิจารณา อย่างไรก็ตาม ในส่วนการติดตามผลการดำเนินโครงการอาจยังขาดผู้เชี่ยวชาญมาช่วยพิจารณารายงานผลการติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการ

            จากนั้นเวลา 15.00 น. ที่ประชุมได้รับฟังความเห็นของพยานผู้เชี่ยวชาญด้านตะกอน ซึ่งให้ข้อมูลสรุปได้ว่า จากการศึกษาวิจัยพบว่า หลังจากมีการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขงสายประธานและลุ่มน้ำสาขา ได้ส่งผลกระทบให้ตะกอนแม่น้ำลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อปัญหาการกัดเซาะตลิ่งที่รุนแรงขึ้น

            ทั้งนี้ กสม.จะได้รวบรวมข้อเท็จจริงและความเห็นข้างต้นเพื่อประกอบการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาเสนอไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน