กสม. ศยามล ประชุมรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายอุทยานแห่งชาติ

14/03/2568 227

            เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมรับฟังความเห็นเพื่อศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะการแก้ไขพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และตัวแทนจากกลุ่มภาคประชาสังคมและบุคคลผู้มีส่วนในการขับเคลื่อนการคุ้มครองสิทธิในที่ดินและสิทธิชุมชนในบริบทที่เกี่ยวกับการอยู่อาศัยและทำกินของประชาชนในพื้นที่อนุรักษ์เข้าร่วมให้ความเห็น ณ ห้องประชุม 606 และผ่านระบบออนไลน์ทางแอพพลิเคชั่น Zoom meeting

            สืบเนื่องจาก กสม. มีข้อเสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรีให้ทบทวนและชะลอพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวกับโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยเน้นย้ำถึงปัญหา ดังนี้

                1. การสำรวจการถือครองที่ดินตามบทเฉพาะกาลไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

                2. ไม่ปรากฏในทางกฎหมายหรือนโยบายใด ๆ ว่ามีกระบวนการจำแนกกลุ่มผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมเพื่อรับรองสิทธิในที่ดินก่อน แต่ให้รัฐบาลกำหนดโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแบบเหมารวมว่า ผู้อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่อนุรักษ์เป็นผู้ยากไร้และผู้บุกรุกทุกราย และจำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมหรือดำเนินคดีและสามารถอยู่อาศัยในพื้นที่ได้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น

                3. โครงการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด 20 ปี  ซึ่งหมายความว่าในอนาคตบุคคลและชุมชนอาจถูกขับไล่ออกจากพื้นที่โดยไม่มีแผนรองรับการโยกย้ายที่อยู่อาศัยและที่ทำกินในอนาคต ซึ่งจะทำให้บุคคลตกอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง มีสภาพความเป็นอยู่ที่ขาดแคลนและไม่มั่นคง กระทบต่อสิทธิมนุษยชนหลายประการ และนำไปสู่ภาวะถดถอยของการคุ้มครองสิทธิด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในประเทศไทย โดยที่กลุ่มชาติพันธุ์และชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ โดยไม่เป็นไปตามหลักการให้ความยินยอมบนพื้นฐานของการได้รับแจ้งข้อมูลล่วงหน้าและการตัดสินใจโดยอิสระ (Free, Prior, and Informed Consent: FPIC)

            การประชุมดังกล่าวมีการนำเสนอข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขกฎหมายและข้อสังเกตต่าง ๆ โดยสำนักงาน กสม. ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งเน้นถึงการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย (meaningful participation) ของชุมชนและท้องถิ่นในการจัดการพื้นที่อนุรักษ์ร่วมกับภาครัฐ โดยให้แต่ละพื้นที่สามารถออกแบบวิธีการจัดการเองได้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของตนเองที่แตกต่างกันไปตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น

เลื่อนขึ้นด้านบน