วันที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 13.30 น. ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พรประไพ กาญจนรินทร์ พร้อมด้วย ที่ปรึกษาประจำ กสม. รัตติกุล จันทร์สุริยา เลขาธิการ กสม. หรรษา หอมหวล และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ให้การต้อนรับและหารือร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทยและกัมพูชา นายแดนนี แอนนัน (Mr. Danny Annan) พร้อมคณะ เกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย สถานการณ์เกี่ยวกับชาวอุยกูร์ ตลอดจนข้อท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ

            เอกอัครราชทูตเดนมาร์กฯ แสดงความชื่นชมต่อความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนของไทย โดยเฉพาะการประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมถึงการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ซึ่งเดนมาร์กเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนอย่างมาก จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนมุมมองและความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ได้แก่ บทบาทและหน้าที่ของ กสม. ในการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในสังคม ตลอดจนประเด็นสำคัญที่มีการร้องเรียนมายัง กสม. เช่น สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิชุมชน เป็นต้น

            ประธาน กสม. ได้กล่าวถึงการดำเนินงานของ กสม. ซึ่งรวมถึงการมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันประเด็นต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับพันธกรณีและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เช่น การต่อต้านการทรมาน การตรวจเยี่ยมในเชิงป้องกันในสถานที่คุมขัง การปฏิบัติต่อผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ และข้อห่วงกังวลต่อการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทาง เป็นต้น นอกจากนั้น ประธาน กสม. ยังกล่าวถึงความพยายามของ กสม. ในการผลักดันประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และการคุ้มครองสิทธิแรงงานกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่ กลุ่มพนักงานบริการ (sex workers) และกลุ่มแรงงานแพลตฟอร์ม (ไรเดอร์) ซึ่งเอกอัครราชทูตเดนมาร์กฯ กล่าวว่าสิทธิแรงงานเป็นประเด็นที่เดนมาร์กให้ความสำคัญเช่นกัน

            ที่ผ่านมา กสม. เคยมีความร่วมมือกับสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเดนมาร์ก และคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR) ในหลายมิติ เช่น สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี กลไกการร้องเรียนเกี่ยวกับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ การจัดทำรายงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับธุรกิจข้ามพรมแดน ซึ่งทั้งสองฝ่ายแสดงความพร้อมที่จะพัฒนาความร่วมมือเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมเคารพสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยในอนาคตต่อไป