กสม. สุภัทรา ร่วมเวทีอาเซียน หารือแนวทางส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิแรงงานหญิงข้ามชาติ

03/03/2568 256

            เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ นางสาวสุภัทรา  นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายบุญแทน  ตันสุเทพวีรวงศ์ ที่ปรึกษาประจำ กสม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมประชุมระดับภูมิภาคในหัวข้อ โควิด 19 และผลกระทบต่อสิทธิสุขภาพและการทำงานของแรงงานหญิงข้ามชาติ (Covid-19 and its Impacts on the Rights to Health and Work of Female Migrants in ASEAN) จัดโดย มูลนิธิส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Prorights Foundation) โดยมีผู้เข้าร่วมจากกลไกสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค เช่น คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR) คณะกรรมาธิการอาเซียนเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ACWC) และคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยการดำเนินการตามประกาศปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมแรงงานข้ามชาติ (ACMW) รวมถึงผู้แทนภาครัฐและภาคประชาสังคมจากประเทศสมาชิกอาเซียน

            ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนมุมมองและบทบาทในการส่งเสริมสิทธิของแรงงานหญิงข้ามชาติทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค เช่น การขจัดความรุนแรงต่อสตรี โดยการจัดทำสื่อรณรงค์เพื่อให้แรงงานหญิงข้ามชาติเข้าถึงบริการ การจัดประชุมระดับภูมิภาคเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิแรงงานข้ามชาติ รวมทั้งได้นำเสนอผลการวิจัยผลกระทบจากโควิด 19 ต่อแรงงานหญิงข้ามชาติ ซึ่งมีข้อค้นพบที่สำคัญ คือ การขาดระบบและกลไกเชิงสถาบันในการช่วยเหลือและคุ้มครองแรงงานหญิงข้ามชาติ ผลกระทบทางสุขภาพจิตอันเนื่องมาจากการขาดรายได้ แรงงานข้ามชาติเป็นจำนวนมากที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด 19 รวมถึงการถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งการสนับสนุนทางสังคมมีส่วนสำคัญในการฟื้นตัวของแรงงานหญิงข้ามชาติ

            ในการนี้ นางสาวพีรดา  ภูมิสวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน 3 ได้รับมอบหมายให้นำเสนอในหัวข้อก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงทางนโยบายและวิธีการอย่างมีเพศภาวะในอาเซียน/ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Towards Gender Transformative Interventions/ Approaches and Policies in ASEAN/SEA) เกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับชาติ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในการส่งเสริมสิทธิของแรงงานข้ามชาติ เช่น การหารือกับกรุงเทพมหานคร เพื่อให้แรงงานข้ามชาติสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพ การกำหนดให้ประเด็นแรงงานรวมถึงแรงงานข้ามชาติเป็นประเด็นที่ กสม. ขับเคลื่อนในสมัชชาสิทธิมนุษยชนปี 2568 รวมทั้งเสนอแนะสำหรับก้าวต่อไปของอาเซียน เช่น การยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชน โดยพิจารณาเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน การพัฒนากฎหมายเพื่อการคุ้มครองสิทธิของแรงงานข้ามชาติอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดทำข้อมูลจำแนกเพศและงานวิจัยที่มีมุมมองมิติเพศภาวะ การสร้างความร่วมมือในกลไกรายสาขาของอาเซียน และข้ามเสาหลักของอาเซียน รวมถึงการส่งเสริมภาคธุรกิจเพื่อร่วมส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของแรงงานข้ามชาติตามหลักธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน เป็นต้น

            ทั้งนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และปรึกษาประจำ กสม. ได้เน้นย้ำถึงบทบาทในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของ กสม. ซึ่งในประเทศไทยประชาชนสามารถเข้าถึงช่องทางการยื่นข้อร้องเรียนกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่หลากหลาย เช่น ผ่านระบบออนไลน์ โทรศัพท์ หรือเข้าร้องเรียนด้วยตนเอง ซึ่งทำให้เพิ่มการเข้าถึงสิทธิมนุษยชนของประชาชนมากขึ้น

เลื่อนขึ้นด้านบน