วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ และนางสาวสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พร้อมด้วยนางสาวหรรษา หอมหวล เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. เข้าร่วมการเสวนา เรื่อง "60 แล้วไง? ทำงานต่อหรือพอแค่นี้" เนื่องในโครงการสมัชชาสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเด็นสิทธิผู้สูงอายุ โดยมีวิทยากรร่วมนำเสนอและอภิปราย ได้แก่ นางสาวสิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (United Nation Population Funds: UNFPA) นพ. ภูษิต ประคองสาย เลขาธิการมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย ผศ.ดร. ดารารัตน์ อานันทนะสุวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสังคมผู้สูงอายุ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ดร. สราวุธ ไพฑูรย์พงษ์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และ รศ. ดร. ศุภศิษฐ์ ทวีแจ่มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

            อนึ่ง การเสวนาข้างต้นยังมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานประกันสังคม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย สมาคมนายจ้างผู้ประกอบกิจการรับเหมาแรงงาน ศูนย์พัฒนาธุรกิจและการดูแลสังคมสูงอายุ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมการเสวนา ณ ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ โดยแบ่งการเสวนาเป็น 2 ช่วง ดังนี้

            ช่วงที่ 1 "สถานการณ์ผู้สูงอายุในการทำงานยุคใหม่" เพื่อมุ่งหารือร่วมกันในประเด็นสิทธิ ความท้าทาย และโอกาสที่ไม่ควรมองข้ามของผู้สูงอายุ และประเด็น Retirement & Pension ซึ่งมีประเด็นที่ต้องพิจารณา อาทิ สิทธิของผู้สูงอายุกับการครองชีพ หลักประกันรายได้ สวัสดิการ เสรีภาพในการประกอบอาชีพ การไม่ถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอายุ หลักการและแนวคิดเกี่ยวกับการเกษียณอายุและการได้รับบำนาญ ตัวอย่างการออกแบบระบบการจ้างงานและหลักประกันรายได้ของต่างประเทศ ข้อเสนอแนะแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการกำหนดอายุเกษียณและสิทธิในการรับบำนาญของประเทศไทย

            นอกจากนี้ วงเสวนาได้ร่วมกันสะท้อนข้อมูลเชิงสถานการณ์ สถิติ มุมมอง ข้อห่วงกังวล และข้อคิดเห็นที่น่าสนใจ เช่น การปรับเปลี่ยนแนวคิดจากการสงเคราะห์ไปสู่การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้สูงอายุ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนและการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และบทบาทในการมีส่วนร่วมระดับต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ ข้อดีและประโยชน์ของการจ้างงานผู้สูงอายุ ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล ระดับสังคม และระดับนโยบาย การคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุควบคู่ไปกับการคำนึงถึงการมีตัวเลือกของผู้สูงอายุในการตัดสินใจว่าจะทำงานต่อหรือไม่ อย่างไร บทบาทและความก้าวหน้าของหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิในการทำงานของผู้สูงอายุ เป็นต้น

            ช่วงที่ 2 "ทิศทางและโอกาสในการทำงานของผู้สูงอายุในไทย" เพื่อมุ่งอภิปรายความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจ้างงานผู้สูงอายุ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีในการจ้างงานผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการจ้างงานของภาคธุรกิจประเภทต่าง ๆ ที่อาจเป็นต้นแบบในการนำไปปรับใช้ในภาคธุรกิจประเภทอื่น ๆ และหน่วยงานภาครัฐ ทั้งในมิติสภาพการจ้างงาน การขยายอายุการทำงาน การกำหนดเกณฑ์อายุที่เหมาะสมในการเกษียณ การกำหนดอัตราค่าจ้างผู้สูงอายุ รายละเอียด ข้อกำหนด และอุปสรรคในการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมทั้งการจัดทำนโยบาย โครงการ หรือแผนงานเพื่อผลักดันการดำเนินการดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

            ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะรวบรวมข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อท้าทาย ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคที่ได้รับจากวิทยากรและผู้เข้าร่วมการเสวนาข้างต้น นำไปประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมุ่งคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของผู้สูงอายุ รวมทั้งเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามข้อมติสมัชชาสิทธิมนุษยชนในประเด็นสิทธิผู้สูงอายุต่อไป.