เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม 605 ชั้น 6 สำนักงาน กสม. นายวสันต์  ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสรวงมณฑ์  สิทธิสมาน ที่ปรึกษาประจำ กสม. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ประชุมรับฟังความเป็นมาและความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) จากนายพัฒนะพงษ์  สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และคณะ โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมา นิยาม และจำนวนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ตามรายงานพิเศษความจริงและความเร่งด่วนของสถานการณ์เด็กนอกระบบในประเทศไทยของ กสศ. โดย กสศ. ประมวลผลข้อมูลประชากรจากทะเบียนราษฎร์เด็กและเยาวชนที่มีเลขประจำตัว 13 หลักในช่วงอายุ 3-18 ปี กับฐานข้อมูลทะเบียนนักเรียนของหน่วยงานผู้จัดการศึกษา 21 สังกัด ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2566 พบว่า เด็กและเยาวชนที่ไม่มีข้อมูลในระบบการศึกษา จำนวน 1.02 ล้านคน ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างการเชื่อมโยงข้อมูลเด็กเยาวชนที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศ โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การเรียน รวมถึงเด็กเยาวชน ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่ออกจากระบบการศึกษา ส่วนสาเหตุของการออกนอกระบบการศึกษามาจากสาเหตุ ความยากจน ปัญหาครอบครัว ออกกลางคัน/ถูกผลักออก ไม่ได้รับสวัสดิการ สุขภาพ กระบวนการยุติธรรม และความรุนแรง ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างดำเนินการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 อย่างต่อเนื่อง

          ในการนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้หารือแนวทางการดำเนินงานร่วมกันกับ กสศ. เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เข้าถึงสิทธิทางการศึกษาตามความต้องการของแต่ละกลุ่ม ทั้งนี้ จะได้นำข้อมูลจากการประชุมดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามหน้าที่และอำนาจต่อไป