วันที่ 16 มกราคม 2568 นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการถอดบทเรียนเพื่อจัดทำคู่มือแนวปฏิบัติและหลักสูตรอบรมนักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กับกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมการประชุมซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ตรงที่เกี่ยวข้องในประเด็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ณ โรงแรม ทีเค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพ

          การประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 17 มกราคม 2568 โดยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนบทเรียนการทำงานของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อมนำไปประกอบการจัดทำคู่มือและหลักสูตรการอบรม และใช้เป็นเครื่องมือในการทำงานเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อม กิจกรรมสำคัญในการประชุมฯ ประกอบด้วย การจัดกระบวนการสร้างความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน การแบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนการทำงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนประเด็นสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม การระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำคู่มือแนวปฏิบัติและหลักสูตรฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง และการวางแผนกิจกรรมเสริมพลังเครือข่ายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อม

          กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า แม้หลักการสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เช่น ปฏิญญาว่าด้วยสิทธิและความรับผิดชอบของปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล และองค์กรของสังคม ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน หรือ “ปฏิญญานักปกป้องสิทธิมนุษยชน”  และหลักการสิทธิมนุษยชนสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี จะระบุถึงนิยามและการให้ความคุ้มครอง “นักปกป้องสิทธิมนุษยชน” แต่ คณะกรรมการมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยังคงได้รับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด กสม. จึงมีแผนงานเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนโดยการจัดทำคู่มือแนวปฏิบัติและการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมขึ้นในครั้งนี้

          นอกจากนี้ กสม.ยังอยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการจัดทำสถิติฐานข้อมูลการร้องเรียนในประเด็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนให้เป็นรูปธรรมเพื่อให้มีแนวทางการขับเคลื่อน คุ้มครอง และส่งเสริม บทบาทการทำงานของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งรวมไปถึงการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจากภัยคุกคามทางดิจิทัลในยุคสมัยปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น  ซึ่ง กสม. จำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการคุกคามนักปกป้องรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อให้เท่าทันและสอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบัน