กสม. จัดเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็นต่อการจัดทำกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบนฐานสิทธิมนุษยชน ภาคเหนือ

31/08/2567 342

          วันที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 – 16.30 น. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา และสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ (สคส.) จัดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นต่อการจัดทำกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบนฐานสิทธิมนุษยชน ภาคเหนือ ณ โรงแรมไอบิส สไตล์ เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และผ่านระบบออนไลน์ (Facebook Live) โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมการสัมมนาจากภาคประชาสังคมและภาคประชาชนต่าง ๆ ในภาคเหนือ จำนวนประมาณ 30 คน

          ปัจจุบันมีการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อแก้ไขวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแล้ว 4 ฉบับ ได้แก่ 1) ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. .... ยกร่างโดย กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม/กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2) ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. .... ยกร่างและเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร/พรรคก้าวไกล 3) ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนเครดิต พ.ศ. .... ยกร่างและเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร/พรรคพลังประชารัฐ และ 4) ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นธรรมและยั่งยืน พ.ศ. .... ยกร่างโดย เครือข่ายประชาชนเพื่อความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นร่างกฎหมายฉบับประชาชน

          ทั้งนี้ การจัดงานสัมมนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชนต่อบริบทการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพื่อรับฟังข้อมูลและความคิดเห็นต่อการจัดทำกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้มีกลไกทางกฎหมายที่ตอบสนองต่อวิกฤติโลกเดือดบนหลักคิดด้านสิทธิมนุษยชนได้อย่างรอบด้าน อันจะช่วยให้ กสม. สามารถจัดทำข้อเสนอแนะตามหน้าที่และอำนาจของ กสม. ในการตรากฎหมายดังกล่าวต่อรัฐบาลได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น

          ในการนี้ นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา และบรรยายพิเศษในหัวข้อ "สิทธิมนุษยชนในบริบทการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ทั้งนี้ กิจกรรมในงานช่วงเช้าประกอบด้วย การเสวนา "เสียงของคนเหนือต่อปัญหาโลกร้อนและกฎหมายต้านโรคร้อน" โดย นายสาคร  สงมา สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ นางสาวสุรีรัตน์  ลัคนาวิเชียร สภาลมหายใจภาคเหนือ นางสาวพรชิตา  ฟ้าประทานไพร เยาวชนจากหมู่บ้านกะเบอะดิน อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ นายภัทรไพบูลย์  เรือนสอน ชุมชนปกาเกอญอ บ้านดอยช้างป่าแป๋ จังหวัดลำพูน เป็นวิทยากร ดำเนินรายการโดย ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ การเสวนา "กฎหมายต้านโลกร้อน : โอกาส ความท้าทาย และข้อเสนอแนะ" โดย นายชยา วรรธนะภูติ นักวิชาการอิสระ นางสาววัชลาวลี คำบุญเรือง มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม และผศ.ดร.นัทมน คงเจริญ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

          ช่วงบ่าย เป็นกิจกรรมระดมความเห็นกลุ่มย่อย "คนเหนือเอายังไง? กับกฎหมายต้านโลกร้อน" ในประเด็นต่างๆ ดังนี้ 1) การลดก๊าซเรือนกระจก 2) การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 3) กลไกตามกฎหมายและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และ 4) ความสูญเสียและเสียหาย การเข้าถึงความยุติธรรมและการเยียวยา

          จากการระดมความคิดเห็นมีประเด็นสำคัญ เช่น การจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังขาดกระบวนการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมและภาคประชาชน ตั้งแต่ขั้นตอนการยกร่างกฎหมายจนถึงปัจจุบัน รายละเอียดเนื้อหาข้อกฎหมายที่ยากต่อการทำความเข้าใจ ประเด็นในเรื่องสัดส่วนของคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ขาดสัดส่วนของภาคประชาชนที่เท่าเทียม ประเด็นรายละเอียดของหมวดกฎหมายที่มองว่าขาดรายละเอียดสำคัญของสิทธิชุมชนแต่มุ่งเน้นไปยังประเด็นระบบซื้อ-ขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่อาจนำมาซึ่ง “การฟอกเขียว” เป็นการใช้ประโยชน์ทางพื้นที่สีเขียวเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ประเด็นภาษีคาร์บอนที่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องระบบการคำนวณที่ไม่เป็นธรรม และขาดมุมมองจากความรู้ชุมชนที่รอบด้าน เป็นต้น

          ในช่วงท้าย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้กล่าวปิดการสัมมนา โดยกล่าวว่า กสม. ยังมีเวทีลักษณะนี้เพิ่มเติมในพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ซึ่ง กสม. จะรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะไปจัดทำข้อเสนอแนะตามหน้าที่และอำนาจของ กสม. ประกอบการจัดทำกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน