สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคเหนือ ร่วมรับฟังข้อเสนอแนะในงานมหกรรมเด็กและเยาวชนส่งเสียง ครั้งที่ 5

28/11/2568 27

          เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมอโมร่า ท่าแพ ถนนชัยภูมิ ตำบลท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ นายอรรณพ  กันทะวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคเหนือ เข้าร่วมงานมหกรรมเด็กและเยาวชนส่งเสียง ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ “พลังเด็ก พลังอนาคต” “ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเพื่อผลักดันเชิงนโยบาย” จัดโดยมูลนิธิรักษ์เด็ก เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจากเด็กและเยาวชนในพื้นที่ภาคเหนือ แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแนวทางคุ้มครอง ส่งเสริม และเฝ้าระวังสถานการณ์การละเมิดสิทธิเด็ก และร่วมจัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน โดยมหกรรมฯ ในครั้งนี้ มุ่งเน้นให้เด็ก เยาวชน รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาสังคม ตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิเด็ก ใน 4 ประเด็น ดังนี้

          1. สิทธิเด็กกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อวิถีชีวิตของเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในปี 2566 เมื่อคณะกรรมการประจำอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child หรือ CRC) ได้จัดทำเอกสารความเห็นทั่วไป ฉบับที่ 26 (General Comment No.26) ว่าด้วยสิทธิเด็กและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และรับรองให้เด็กมีสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ถูกสุขอนามัย และยั่งยืน ความเห็นทั่วไปดังกล่าวมีสาระสำคัญในการขับเคลื่อนให้เด็กมีบทบาทสำคัญ และมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ โดยรัฐต้องรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากเด็ก และกำหนดมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็กบนหลักการไม่เลือกปฏิบัติ

          2. สิทธิเด็กกับอนามัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะเมื่ออัตราการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร และการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การเข้าไม่ถึงแหล่งความรู้และทรัพยากรในการป้องกันอย่างเพียงพอถือเป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐต้องให้การสนับสนุน การสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กสามารถพูดคุย ขอรับคำปรึกษา หรือขอรับเครื่องมือและอุปกรณ์ป้องกันได้อย่างเสรีและทั่วถึง รวมไปถึงเสริมสร้างค่านิยมและทัศนคติที่ดีต่อการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการช่วยเหลือผู้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

          3. สิทธิเด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติ เน้นย้ำสิทธิเด็กที่จะได้รับสัญชาติ และสิทธิที่จะได้รับการรับรองสถานะตามกฎหมายเพื่อให้เด็กสามารถเข้าถึงการศึกษา การรักษาพยาบาล และบริการอื่น ๆ ของรัฐได้ ประกอบกับการสร้างทัศนคติที่ดีต่อแรงงานข้ามชาติ และลูกหลานของแรงงานข้ามชาติ ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

          4. การขจัดความรุนแรงจากทางเพศ ภัยออนไลน์ รวมถึงการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กและการค้ามนุษย์ สืบเนื่องจากการใช้สื่อออนไลน์ของเด็กที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่การดำเนินมาตรการป้องกัน และนโยบายด้านความปลอดภัยออนไลน์ไม่ได้ส่งเสริมให้เด็กรู้สึกปลอดภัยในการแสดงความเห็น หรือบอกเล่าปัญหา จึงส่งผลให้เด็กตกเป็นเหยื่อจากการล่อลวง และถูกละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การมีพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กได้บอกเล่าปัญหา เสนอข้อเสนอแนะ และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาจึงเป็นเรื่องสำคัญจากประเด็นข้างต้น เด็กและเยาวชนผู้เข้าร่วมงานมหกรรมฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะ และสะท้อนความต้องการในการคุ้มครอง และส่งเสริมสิทธิเด็กร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาสังคม ในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งสำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคเหนือ จะได้รวบรวมข้อเสนอแนะ เพื่อจัดทำแนวทางความร่วมมือ และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ภาคเหนือ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวทางการคุ้มครอง และส่งเสริมสิทธิเด็กเพื่อตอบสนองต่อความต้องการสูงสุดของเด็กและเยาวชนต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน