เมื่อวันที่ 17 - 18 กรกฎาคม 2568 นายไพโรจน์  พลเพชร ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ลงพื้นที่รับฟังข้อเท็จจริงจากประชาชน และประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง กรณีการคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

           วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ช่วงเช้า ที่วัดหนองปล่อง ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ปรึกษา กสม. และคณะ ลงพื้นที่พบกับประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองปล่อง ประมาณ 400 คน เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับความกังวลถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ วิถีชีวิตดั้งเดิมและการประกอบอาชีพ รวมถึงกรณีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนว่าไม่ได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้านและไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในเวทีประกอบการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างแท้จริง จากนั้นในช่วงบ่าย ได้ร่วมประชุมกับผู้แทนผู้ประกอบกิจการ และผู้แทนของเทศบาลตำบลหนองปล่อง ณ ที่ทำการเทศบาลตำบลหนองปล่อง เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดโครงการ กระบวนการขออนุญาต และการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียประกอบการจัดทำรายงาน EIA รวมถึงบทบาทและหน้าที่ของเทศบาลตำบลหนองปล่องในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล

           วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ที่ห้องประชุมพนมรุ้ง ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ปรึกษา กสม. และคณะ ประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 6 (นครราชสีมา) สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ นายอำเภอชำนิและกำนันตำบลหนองปล่อง เพื่อรับฟังข้อมูลในส่วนของกฎหมาย ระเบียบ ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล การจัดทำรายงาน EIA การมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงาน EIA ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการ รวมทั้งได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาตามเรื่องร้องเรียนเพื่อบรรเทาความกังวลของประชาชนในพื้นที่และลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นต่อไปด้วย

           ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะรวบรวมข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายเพื่อประกอบการตรวจสอบและจัดทำร่างรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนเสนอ กสม. พิจารณาตามหน้าที่และอำนาจต่อไป