เมื่อวันที่ 29-30 มิถุนายน 2568 ที่โรงแรมโฮเทลมุก ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (สำนักงาน กสม.) ร่วมกับ The Mekong Butterfly และมูลนิธิแม่น้ำนานาชาติ จัดเวทีเสวนาสาธารณะ “จากเขื่อนปากแบงถึงเขื่อนพูงอย : การตรวจสอบขององค์กรอิสระและผลกระทบข้ามพรมแดน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนเสียงของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนในแม่น้ำโขงที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ความมั่นคงทางอาหาร และความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศในท้องถิ่น รวมถึงติดตามบทบาทขององค์กรอิสระภายใต้กลไกภาครัฐ ว่าสามารถทำอย่างไรได้บ้างในสถานการณ์ปัจจุบันที่คาดว่าเขื่อนปากแบงกำลังจะเริ่มต้นก่อสร้างในปลายปี 2568 และเขื่อนพูงอยที่กำลังจะตามมาในอนาคต ทั้งนี้ เวทีดังกล่าวมีกลุ่มเป้าหมายคือประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง โดยมีกิจกรรมดังนี้

          กิจกรรมในวันที่ 29 มิถุนายน 2568 เป็นการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นจากประชาชน เพื่อประมวลและนำเสนอสถานการณ์ในปี 2567-2568 และกิจกรรมที่ดำเนินการในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขงในระดับพื้นที่และนโยบายที่ผ่านมา การนำเสนอประเด็นค่าไฟฟ้า ประเด็นแผนพัฒนากำลังไฟฟ้า (แผนพีดีพี) การวิเคราะห์สถานการณ์พลังงานกับการสร้างเขื่อน ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. โดยนางสาวศิริลดา  ผิวหอม หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 2 สำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 ได้ร่วมนำเสนอถึงการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีเขื่อนแม่น้ำโขง โครงการบริหารจัดการน้ำ โขง เลย ชี มูล ที่ผ่านมา

          กิจกรรมในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีเวทีเสียงประชาชน “จากเขื่อนปากแบงถึงเขื่อนพูงอย: ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอยู่ตรงไหนของกระบวนการตัดสินใจ" โดยตัวแทนเครือข่ายชุมชนแม่น้ำโขง 8 จังหวัด ดำเนินรายการโดย นางสาวชนาง  อำภารักษ์ กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง และเวทีสาธารณะ “จากเขื่อนปากแบงถึงเขื่อนพูงอย: การตรวจสอบขององค์กรอิสระและผลกระทบข้ามพรมแดน” โดยมีวิทยากร ได้แก่ 1) นายทรงศัก  สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน 2) นางสาวพิมพ์ดาว  จันทรขันตี ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 3) ดร.พูนศักดิ์  จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมล 4) ศ.ดร.ทวนทอง  จุฑาเกตุ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 5) ศ.ดร.กนกวรรณ  มะโนรมย์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ดำเนินรายการโดย นางสาวไพรินทร์  เสาะสาย จากมูลนิธิแม่น้ำนานาชาติ

          ทั้งนี้ เวทีสาธารณะดังกล่าว เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการสานพลังเครือข่ายสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนโดยการสนับสนุนให้เกิดเวทีวิชาการร่วมกับเครือข่ายในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในประเด็นสิทธิมนุษยชน