กสม. ศยามล ร่วมเวทีสาธารณะ เครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ เรื่อง “การฟ้องคดีปิดปาก (SLAPP) กับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย”

10/12/2568 7

               เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30 น. นางสาวศยามล  ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมเวทีสาธารณะ เครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ เรื่อง “การฟ้องคดีปิดปาก (SLAPP) กับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย” โดยมี ดร.คนึงนิจ  ศรีบัวเอี่ยม คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.มานะ  นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) นายสาวิทย์  แก้วหวาน ประธานสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) นายมานพ  เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)  นายเมธา มาสขาว ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ และเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และนายสุปัน  รักเชื้อ ประธานวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ ห้องสีดา โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ

               กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความเห็นว่า ตามหลักการปฏิญญาสากลว่าด้วยนักปกป้องสิทธิมนุษยชนหรือผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน หมายถึง บุคคลทุกคนมีสิทธิโดยลำพังหรือโดยร่วมกับผู้อื่นที่จะส่งเสริมและต่อสู้เพื่อให้เกิดการคุ้มครองและตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ดังนั้น นักปกป้องสิทธิมนุษยชน (Human Right defender : HRD) จึงหมายถึงทุกคนไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่ของรัฐ สื่อมวลชน หรือพนักงานในบริษัทเอกชน ที่รวมกลุ่มเรียกร้องสิทธิให้แก่ตนเองและหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ เช่น กรณีพบการทุจริตในการใช้งบปะมาณของแผ่นดิน หรือถูกละเมิดสิทธิจากนโยบายหรือโครงการพัฒนาของรัฐหรือเอกชน การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะที่ตรวจสอบการดำเนินการของรัฐ หรือการประกอบกิจการของบริษัทเอกชน เป็นต้น การทำความเข้าใจให้มีทัศนคติที่ดีต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชนทั่วไปต้องตระหนักว่าการเรียกร้องสิทธินั้นเป็นการกระทำโดยสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะและต้องไม่มีการใช้ความรุนแรง

               ทั้งนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับเรื่องร้องเรียนหลายกรณีโดยส่วนใหญ่จะเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และการแสดงความเห็นต่างทางการเมือง การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งจะมีการถูกฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้แก่ ข้อหาหมิ่นประมาทถูกฟ้องคดีทางอาญา ทางแพ่ง และทางวินัย ข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ กฎหมายจราจร กฎหมายรักษาความสะอาด เป็นต้น โดย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จะดำเนินการส่งต่อเรื่องร้องเรียนให้กับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อันเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรง หรือหากเป็นกรณีที่ กสม. รับไว้ตรวจสอบ กสม.จะนำหลักสิทธิมนุษยชน และหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน (UNGP) มาเป็นหลักในการตรวจสอบด้วย

               ท้ายนี้ กสม. ได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนไปยังกระทรวงยุติธรรมได้แก่การปรับปรุงหลักเกณฑ์การช่วยเหลือของกองทุนยุติธรรมให้ครอบคลุมนักปกป้องสิทธิมนุษยชน การจัดทำกลไกการรับเรื่องร้องเรียนร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงยุติธรรม กรณีการละเมิดนักปกป้องสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และมีการส่งต่อเรื่องร้องเรียนให้เกิดการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยเร็ว รวมถึงการร่วมกับภาคประชาสังคมและกระทรวงยุติธรรมจัดอบรมนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และจะมีการสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมให้มีความเข้าใจและมีกลไกความร่วมมือในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน รวมถึงจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะต่อการสนับสนุนให้มีกฎหมายการฟ้องคดีปิดปาก (Anti- Strategic Lawsuits Against Public Participation : SLAPP)

เลื่อนขึ้นด้านบน