กสม. เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 14 และหารือประเด็นท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนกับองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

10/12/2568 9

               ระหว่างวันที่ 24 – 26 พฤศจิกายน 2568 ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พรประไพ  กาญจนรินทร์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ปิติกาญจน์  สิทธิเดช พร้อมด้วยที่ปรึกษาประจำกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รัตติกุล  จันทร์สุริยา เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรรษา หอมหวล และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เข้าร่วม “การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 14” (14th United Nations Forum on Business and Human Rights) ณ สำนักงานสหประชาชาติ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเวทีสำคัญของการแลกเปลี่ยนข้อมูล มุมมอง และประสบการณ์จากทุกภาคส่วนทั่วโลก เพื่อผลักดันการขับเคลื่อน หลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UN Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) ส่งเสริมการประกอบธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม และสร้างหลักประกันว่าผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจจะได้รับการคุ้มครองและเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรม

               การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 4,650 คน จาก 146 ประเทศ ทั้งในรูปแบบ onsite และ online โดยมุ่งเน้นการหารือประเด็นท้าทายร่วมสมัยที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในหลายมิติ และการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนในช่วงวิกฤต อาทิ

- การส่งเสริม ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (Diversity, Equity, and Inclusion: DEI)

- ความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับศูนย์ติดต่อประสานงานแห่งชาติ (National Contact Point: NCP) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)

- ความรับผิดชอบของภาคธุรกิจต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

- ปัญหาสิทธิมนุษยชนที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

               ที่ประชุมตระหนักว่า ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงกระจุกตัว ในขณะที่ปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มเปราะบางและกลุ่มชาติพันธุ์ ตลอดจนรวมถึงความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนจากการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจกระทบต่อแรงงานเด็กและแรงงานบังคับในห่วงโซ่อุปทานยังคงเกิดขึ้น หากปราศจากการกำกับดูแลที่เข้มแข็งและการตรวจสอบที่โปร่งใส

               นอกจากนี้ คณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UN Working Group on Business and Human Rights) ยังได้นำเสนอ รายงานประจำปี 2568 เรื่อง “Labour Migration, Business and Human Rights in Times of Transformation” ซึ่งสะท้อนความท้าทายด้านการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติ รวมถึงปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ล่อลวงประชาชนไปใช้แรงงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการหลอกลวงผ่านออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น พร้อมเสนอแนวทางการป้องกันและคุ้มครองผ่านการร่วมมือกับแพลตฟอร์มดิจิทัลและกลไกการส่งต่อระดับชาติ

               นอกจากการเข้าร่วมการประชุมข้างต้นแล้ว คณะผู้แทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยังได้หารือความร่วมมือกับองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ได้แก่

- สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งเดนมาร์ก (Danish Institute for Human Rights – DIHR) เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนากฎหมายว่าด้วย Human Rights Due Diligence (HRDD) และการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการจัดตั้ง National Contact Point (NCP) ภายใต้บริบทการเข้าสู่การเป็นสมาชิก OECD

- สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) โดยหารือกับผู้ช่วยข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ลี้ภัยทั่วโลก รวมถึงข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮีนจาในประเทศไทย และการประสานความร่วมมือระหว่าง กสม. กับ UNHCR ในประเทศไทยเพื่อคุ้มครองผู้แสวงหาที่พักพิงตามหลักสิทธิมนุษยชนต่อไป

               การประชุมและการหารือเชิงนโยบายในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ กสม. ได้แลกเปลี่ยนแนวคิด มุมมอง ประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติที่ดีในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะนำไปประยุกต์ใช้ในการยกระดับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกิดผลเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน