สำนักงาน กสม. จัดสัมมนา ชูมิติสิทธิมนุษยชนในการจัดการกากอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก

09/12/2568 12

            เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) ได้จัดสัมมนาในหัวข้อ “การตั้งโรงงานและการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก: มิติสิทธิมนุษยชน” เพื่อมุ่งรวบรวมข้อมูลเชิงลึก แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวอย่างรอบด้าน ณ ห้องเอราวัณ 1–2 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร

            การสัมมนานี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหา แนวทางดำเนินการ ผลกระทบ รวมถึงข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เพื่อนำไปสู่การจัดทำแนวทางแก้ไขปัญหา และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยมีประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พรประไพ กาญจนรินทร์ กล่าวเปิดงาน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศยามล ไกยูรวงศ์ ร่วมดำเนินการอภิปรายตลอดงาน นอกจากนี้ ยังมี ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไพโรจน์ พลเพชร และเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรรษา หอมหวล เข้าร่วมงานด้วย

            วิทยากรจากหน่วยงานรัฐด้านอุตสาหกรรมและการบังคับใช้กฎหมาย เครือข่ายภาคประชาชน และผู้แทนชุมชน ได้ร่วมสะท้อนสถานการณ์ปัญหาที่สำคัญของการตั้งโรงงานและการจัดการกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก อาทิ การขาดกลไกป้องกันการลักลอบทิ้งของเสีย ปัญหาผังเมืองที่เอื้อให้เกิดการตั้งโรงงานในพื้นที่ชุมชนโดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลครบถ้วน ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และการหลีกเลี่ยงกระบวนการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ตั้งแต่ต้น ซึ่งการจัดตั้งโรงงานในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น ใกล้พื้นที่ชุมชนหรือแหล่งน้ำสำคัญ โดยไม่มีระบบบำบัดหรือการจัดการกากที่รองรับผลกระทบได้จริง นำไปสู่การปนเปื้อนใน ดิน น้ำ อากาศ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว ขณะเดียวกันการที่ผู้ร้องเรียนและนักสิทธิมนุษยชนต้องเผชิญกับการถูกข่มขู่ คุกคาม และกรณีโรงงานบางแห่งยังเปิดดำเนินการแม้ไม่มีใบอนุญาต

            ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เสนอแนวทางสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นที่การปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม

            การยกระดับกลไกทางกฎหมาย: การปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกฎหมายโรงงาน และกฎกระทรวงเกี่ยวกับการออกใบอนุญาต รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองอย่างรัดกุม

            การผลักดันความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูล: ส่งเสริม พ.ร.บ. การรายงานและเปิดเผยการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (PRTR) และยกระดับกระบวนการ EIA เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและมีส่วนร่วมในการตรวจสอบได้อย่างแท้จริง

            การคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจากการฟ้องปิดปาก (SLAPP): การปรับปรุงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับความผิดฐานหมิ่นประมาท เพื่อให้ไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการคุกคามประชาชนที่ แสดงความคิดเห็นหรือเรียกร้องให้ตรวจสอบโครงการที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

            การบูรณาการภาครัฐ: บูรณาการหน่วยงานภาครัฐให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเข้มแข็ง เพื่อให้การจัดตั้งโรงงานเป็นไปตามมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และไม่กระทบสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม

            สำนักงาน กสม. มุ่งมั่นที่จะนำข้อมูลและข้อเสนอที่ได้จากการสัมมนาครั้งนี้ไปจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการกากอุตสาหกรรม และผลักดันการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน และสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืนต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน