วันที่ 31 มีนาคม 2565 เวลา 10.30 น. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนางสาวพรประไพ กาญจนรินทร์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ครั้งที่ 12/2565 โดยมีวาระสำคัญ ดังนี้
1. กสม. ได้รับแจ้งการเสนอปรับคืนสถานะ A ในเวทีโลก หวังยกระดับการทำงานปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ตามที่คณะอนุกรรมการประเมินสถานะ (Sub-Committee on Accreditation: SCA) ภายใต้กรอบความร่วมมือเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Global Alliance of National Human Rights Institutions: GANHRI) ได้ประเมินสถานะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยพิจารณาความสอดคล้องของการจัดตั้งและการดำเนินงานของ กสม. กับหลักการเกี่ยวกับสถานะของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ “หลักการปารีส” (Paris Principles) จากเอกสารชี้แจง และการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าในการแก้ไข ปรับปรุงการดำเนินงานของ กสม. ในช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Office of the High Commissioner for Human Rights: OHCHR) ฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการ SCA ได้แจ้งผลการพิจารณาว่า มีข้อเสนอแนะที่จะให้ กสม. กลับคืนสู่สถานะ A เพราะเห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของ กสม. ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย รวมทั้งความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาข้อห่วงกังวลของ SCA ในเรื่องความเป็นอิสระอันเนื่องมาจากบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การสรรหาและแต่งตั้ง กสม. ซึ่งต้องมีความหลากหลาย การเพิ่มหน้าที่และอำนาจในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รวมถึงการพัฒนากระบวนการติดตามการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของ กสม.
คณะอนุกรรมการ SCA เน้นย้ำความสำคัญในบทบาทของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ได้รับสถานะ A ว่าจะต้องมีความเป็นอิสระ มีการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ อย่างแข็งขัน ทั้งในประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก เพื่อหนุนเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการ SCA นี้ เมื่อไม่มีการคัดค้านโดย กสม. ภายใน 28 วัน จะมีการเผยแพร่รายงานการพิจารณาฉบับทางการทางเว็บไซต์ และจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร GANHRI (GANHRI Bureau) พิจารณารับรองต่อไป ซึ่ง กสม. ไทยจะได้รับสถานะ A อย่างเป็นทางการ อันจะช่วยให้ กสม. สามารถแสดงบทบาทและมีส่วนร่วมในเวทีระหว่างประเทศได้อย่างเต็มที่ เช่น การเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Human Rights Council) การเข้าร่วมในคณะทำงานด้านต่าง ๆ ทั้งของกรอบความร่วมมือเครือข่ายสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทั้งในระดับโลก (GANHRI) และระดับภูมิภาค (APF) ที่จะร่วมผลักดันประเด็นสำคัญในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและระดับสากล ตลอดจนจะช่วยให้ท่าทีและความเห็นของ กสม. เช่น แถลงการณ์และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ภายในประเทศมีความน่าเชื่อถือและมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
“การที่ กสม. ได้รับสถานะ A กลับคืนมา ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และภาคประชาสังคม ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในบทบาทหน้าที่ของ กสม. ที่จะต้องสามารถดำเนินงานได้อย่างเป็นอิสระและมีประสิทธิภาพ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันทำให้ กสม. ได้รับการเสนอปรับสถานะกลับมาเป็น A ซึ่งจะทำให้ กสม. สามารถทำหน้าที่ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” ประธาน กสม. กล่าว
2. กสม.หยิบยกปัญหาสภาพความเป็นอยู่แออัดในสถานกักตัวคนต่างด้าวขึ้นตรวจสอบเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงระบบ ลดความเสี่ยงผู้ต้องกักถูกละเมิด
ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนหลายกรณีเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องกักในสถานกักตัวคนต่างด้าวซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และล่าสุด กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 ได้พิจารณาคำร้องระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตั้งแต่ประมาณปลายเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ติดเชื้อในสถานกักตัวคนต่างด้าว (ตม.สวนพลู) ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้ถูกร้อง ได้สั่งให้ปิดสถานที่โดยห้ามบุคคลภายนอกเข้าเยี่ยม ห้ามส่งอาหารจากภายนอก ห้ามผู้ต้องกักออกนอกห้องควบคุมโดยให้อยู่ภายในห้องตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีแพทย์ประจำการในสถานกักตัวเพื่อรักษาโรค รวมถึงได้รับอาหารที่ด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ สภาพความเป็นอยู่ภายในห้องกักยังมีความแออัด สกปรก และไม่มีแสงสว่างเพียงพอ ซึ่งเป็นการปฏิบัติต่อผู้ต้องกักโดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงขอให้ตรวจสอบ นั้น
กสม. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย รวมทั้งบทบัญญัติของกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องแล้ว รับฟังได้ว่า การดำเนินการของ สตม. ที่เกี่ยวกับการดูแลและการจัดการสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องกักในสถานกักตัวคนต่างด้าว ได้มีการดำเนินการดูแลผู้ต้องกักในด้านต่าง ๆ เช่น โภชนาการ การรักษาสุขอนามัย นันทนาการ การรักษาพยาบาล ตามคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ 89/2562 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 เรื่อง กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับตัว การควบคุม และดูแลคนต่างด้าวสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ภายในสถานกักตัวคนต่างด้าว ผู้ถูกร้องได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันการแพร่ระบาดตามความสามารถที่จะกระทำได้ภายใต้ข้อจำกัดของอาคารสถานที่ และงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ในชั้นนี้จึงยังไม่ปรากฏว่า สตม. มีการกระทำหรือการละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
อย่างไรก็ดี กสม. เห็นว่าเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศทางผ่านและที่พักพิงชั่วคราวของผู้ขอลี้ภัย/แสวงหาที่ลี้ภัย (asylum seeker) และผู้ลี้ภัย (refugee) โดยเฉพาะกลุ่มผู้แสวงหาที่ลี้ภัยที่เดินทางเข้ามาขอสถานะผู้ลี้ภัยจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) แต่ผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ยังคงไม่ได้รับการคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัยตามกฎหมายไทย เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยสถานะผู้ลี้ภัย พ.ศ. 2494 และพิธีสารเกี่ยวกับสถานภาพผู้ลี้ภัย พ.ศ. 2510 ดังนั้น บุคคลกลุ่มนี้จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการตรวจคนเข้าเมือง ทำให้การเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ว่าจะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการอนุญาตนั้นสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอนแล้ว บุคคลกลุ่มนี้ต้องเสี่ยงต่อการถูกจับกุม ดำเนินคดี และถูกกักตัวในสถานกักตัวคนต่างด้าวของ สตม. เพื่อรอการส่งตัวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และเนื่องจากการพิจารณาสถานะผู้ลี้ภัยมีระยะเวลายาวนาน รวมถึงการย้ายไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่สามต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของประเทศผู้รับ ทำให้ผู้ลี้ภัยต้องตกอยู่ในสภาวะการถูกกักตัวโดยไม่มีกำหนดเวลา
กสม. เห็นว่า การที่ผู้แสวงหาที่ลี้ภัย และผู้ลี้ภัย (refugee) ต้องถูกกักตัวในสถานกักตัวคนต่างด้าวซึ่งสภาพพื้นที่จำกัดและความสามารถในการรองรับผู้ต้องกักยังต่ำกว่ามาตรฐานของพื้นที่นอนสำหรับผู้ต้องขังที่กำหนดโดยกรมราชทัณฑ์ คือ ประมาณ 2.25 ตารางเมตรต่อผู้ต้องขัง 1 คน และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขังบุคคลในระยะยาวหรือไม่มีกำหนดนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ต้องกักในหลายด้าน เช่น การถูกจำกัดอิสรภาพ การพลัดพรากจากครอบครัว สถานกักตัวมีสภาพแออัดไม่ถูกสุขอนามัยส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจ นอกจากนี้ การอพยพย้ายถิ่นในมิติของการแสวงหาที่ลี้ภัย มีแนวคิดพื้นฐานที่ว่าการแสวงหาที่ลี้ภัยเป็นสิทธิของบุคคลตามกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยผู้ลี้ภัยและหลักสิทธิมนุษยชนสากล ดังนั้น ผู้แสวงหาที่ลี้ภัยและผู้ลี้ภัยจึงควรได้รับการคุ้มครองและช่วยเหลือ มิใช่การถูกควบคุมตัวที่ทำให้ตกอยู่ในสภาพความยากลำบากจนอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องกักภายในสถานกักตัวคนต่างด้าวให้ได้รับการดูแลสภาพความเป็นอยู่ตามมาตรฐานขั้นต่ำได้อย่างเป็นรูปธรรม กสม. จึงมีมติให้หยิบยกกรณีปัญหาดังกล่าวขึ้นตรวจสอบและศึกษา โดยจะมีการเข้าตรวจเยี่ยมสถานที่กักตัว และหารือในระดับนโยบายเพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงระบบต่อไป
ดาวน์โหลด PDF
เกี่ยวกับเรา
ย้อนกลับ
คณะกรรมการ
ประวัติความเป็นมา
หน้าที่และอำนาจ
ประวัติคณะกรรมการ
เป้าประสงค์ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์และนโยบาย
ย้อนกลับ
สำนักงาน
ประวัติความเป็นมา
โครงสร้างหน่วยงาน
ผู้บริหาร
ค่านิยมองค์กร
การจัดการความรู้ในองค์กร (KM)
แผน/ผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ
มาตรฐานทางจริยธรรม
ตราสัญลักษณ์และความหมาย
ย้อนกลับ
การประกาศนโยบาย
นโยบายเว็บไซต์
นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายคุกกี้
เงื่อนไขการใช้บริการ
ย้อนกลับ
เกี่ยวกับเรา
ระบบงานภายในสำหรับเจ้าหน้าที่
คณะกรรมการ
สำนักงาน
การประกาศนโยบาย
คลังความรู้สิทธิมนุษยชน
ย้อนกลับ
สื่อประชาสัมพันธ์
สื่อสิ่งพิมพ์สำนักงาน กสม.
มุมมองสิทธิ์
เพลงเพื่อสิทธิมนุษยชน
สื่อวีดิทัศน์
สื่อวิทยุ
วารสาร
Infographic
Social Media
สื่อการเรียนรู้
สื่ออื่น ๆ
ย้อนกลับ
สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
หลักการเกี่ยวกับสถานะของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (หลักการปารีส)
พันธกรณีระหว่างประเทศ
แนวปฏิบัติ มาตรฐานและกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน
กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน
การประเมินสถานะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ย้อนกลับ
คลังความรู้สิทธิมนุษยชน
สื่อประชาสัมพันธ์
ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
สิทธิมนุษยชนศึกษา
คู่มือและแนวทางการปฏิบัติงานต่าง ๆ
ผลการศึกษา ผลงานวิจัย
การตรวจเยี่ยมเชิงป้องกัน
ผลการดำเนินงาน
ย้อนกลับ
รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
บทสรุปผู้บริหาร รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ย้อนกลับ
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
บทสรุปผู้บริหารรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
แผนการจัดทำรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
รายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ภูมิภาค
ย้อนกลับ
ข้อมูลสถิติต่าง ๆ
สถิติเรื่องร้องเรียน
ย้อนกลับ
รายงานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
รายงานด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ/ผลการประชุมอื่นๆ
ย้อนกลับ
ผลการดำเนินงาน
รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
รายงานผลการติดตามผลการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชน
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน
รางวัลนักสิทธิมนุษยชนดีเด่น
ข้อมูลสถิติต่าง ๆ
รายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
มติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ด้านบริหาร
สรุปผลการประชุม/สัมมนา/เวทีทางวิชาการ/ระดมความคิดเห็น/การฝึกอบรม
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)
รายงานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
บริการประชาชน
ย้อนกลับ
แจ้งเรื่องร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน
แนะนำการร้องเรียน
แจ้งเรื่องร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนออนไลน์
ติดตามเรื่องร้องเรียน
ผังการให้บริการรับเรื่องร้องเรียนและการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ย้อนกลับ
แจ้งข้อมูลอื่นๆ
รับฟังความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะและติชมการให้บริการ
แจ้งข้อมูลสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน
แจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม.
ย้อนกลับ
การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสฯ (ITA)
เว็บไซต์เพื่อการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสฯ (ITA)
การส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใส
การป้องกันการทุจริต
การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
ย้อนกลับ
บริการประชาชน
แจ้งเรื่องร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน
แจ้งข้อมูลอื่นๆ
บริการจดแจ้งองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพ
ศูนย์สารสนเทศสิทธิมนุษยชน
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ
การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสฯ (ITA)
แบบฟอร์มออนไลน์
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ
กฎหมาย
ย้อนกลับ
ระเบียบ ประกาศ แนวปฏิบัติ และคำสั่งของ กสม.
ระเบียบ กสม.
ประกาศ กสม.
แนวปฏิบัติ กสม.
คำสั่ง กสม.
ย้อนกลับ
ระเบียบ ประกาศ แนวปฏิบัติและข้อบังคับของสำนักงาน กสม.
ระเบียบ สำนักงาน กสม.
ประกาศ สำนักงาน กสม.
แนวปฏิบัติ สำนักงาน กสม.
ข้อบังคับ สำนักงาน กสม.
ย้อนกลับ
กฎหมาย
ร่างกฎหมายที่เปิดรับฟังความคิดเห็น
การประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
รัฐธรรมนูญ
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติอื่น
ประมวลกฎหมาย
ประกาศองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
มาตรฐานและข้อกำหนดทางจริยธรรม
ระเบียบ ประกาศ แนวปฏิบัติ และคำสั่งของ กสม.
ประกาศ เรื่อง การขึ้นทะเบียนผู้ทรงคุณวุฒิ
ระเบียบ ประกาศ แนวปฏิบัติและข้อบังคับของสำนักงาน กสม.
กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาพัสดุ
กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หนังสือรวมกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ข่าว
ย้อนกลับ
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
แผนการจัดซื้อจัดจ้าง
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างรายเดือน/รายไตรมาส
สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างรายปี
พระราชบัญญัติ กฎกระทรวง และระเบียบ
หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (GProcurement)
คู่มือ/แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ
ย้อนกลับ
ข่าว
ข่าว กสม. และเหตุการณ์สำคัญ
ข่าวสำนักงาน กสม.
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวสมัครงาน
ข่าวสำนักงาน กสม. พื้นที่ภาค
ข่าวฝากประชาสัมพันธ์
ติดต่อเรา
ย้อนกลับ
สำนักงาน กสม. (พื้นที่ภาค)
สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคใต้
สำนักงาน กสม. พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ย้อนกลับ
ติดต่อเรา
สำนักงาน กสม.
สำนักงาน กสม. (พื้นที่ภาค)
เว็บบอร์ด
สำนักงานพื้นที่ภาค
ย้อนกลับ
สำนักงานพื้นที่ภาค
เว็บไซต์ส่วนภูมิภาคภาคใต้
เว็บไซต์พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เว็บไซต์ส่วนภูมิภาคภาคเหนือ