กสม. สุภัทราร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น “(ร่าง) พระราชบัญญัติรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพ และคุณลักษณะทางเพศ พ.ศ. ....

26/09/2565 731

วันที่ 25 กันยายน 2565 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ร่วมกับเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และองค์กรภาคีเครือข่าย จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น “(ร่าง) พระราชบัญญัติรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพ และคุณลักษณะทางเพศ พ.ศ. .... The Gender Identity, Gender Expression, and Sex Characteristic Act. B.E. 256X : GEN - ACT” เพื่อรับฟังความคิดเห็น และผลักดันให้มีกฎหมายที่รับรองสิทธิในอัตลักษณ์และการแสดงออกทางเพศสภาพ คุ้มครองสิทธิในคุณลักษณะทางเพศภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายภายในที่สอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ณ ห้องเสวนาชั้น 6 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
นางสาวสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวตอนรับภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการรับฟังความคิดเห็นกับ (ร่าง) พระราชบัญญัติดังกล่าวว่า ในนามของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) รู้สึกชื่นชมในการขับเคลื่อนของภาคีเครือข่ายผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่ได้ยกร่างกฎหมาย GEN – ACT เพื่อให้เกิดการรับรองทางเพศสภาพ และ กสม. รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในการขับเคลื่อนกฎหมาย เพื่อให้เกิดการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ดีแต่ยังต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายภายหลังการรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เกิดความรอบคอบ รอบด้าน และมีประโยชน์สำหรับทุกคนอย่างแท้จริง ซึ่งการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนนั้นมีความสำคัญมากเป็นหัวใจของการทำงาน และครั้งนี้เป็นเวทีแรกของการรับฟังความคิดเห็น และจะมีเวทีในภาคต่าง ๆ โดยที่ผ่านมา กสม. จะได้ติดตามเรื่องนี้ ในการจัดสมัชชาสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะมีการจัดสมัชชาสิทธิมนุษยชนทุกปี ดังนั้นประเด็นความก้าวหน้าเพื่อให้การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ กสม. ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน กสม. อยู่ระหว่างการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี 2566 และมีความตั้งใจในการมีส่วนร่วมและสนับสนุนในทุกประเด็น ทุกกิจกรรม เพื่อให้เรื่องนี้ขับเคลื่อนไปได้ และได้กล่าวยินดีกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม และกฎหมายรับรองคู่ชีวิตที่มีความคืบหน้า ได้ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการ และจะได้เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมสมัยหน้าของสภาผู้แทนราษฎร แต่เส้นทางของการออกกฎหมายนั้นยาวนานมากอาจมีการแก้ไข และมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอีก อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งครั้งใหม่ จึงอยากให้มีการขับเคลื่อนโดยการเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายแล้ว นอกจากนี้ยังต้องทำงานกับพรรคการเมืองเพื่อให้เสนอร่างกฎหมาย และยังต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำร่างของหน่วยงานรัฐกับร่างของภาคประชาชน
ในการนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เชิญชวนองค์กรภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ยื่นคำขอจดแจ้งเป็นองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อร่วมทำงานกับ กสม. โดยมีแผนงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่าจะทำงานร่วมกับองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ และจะแก้ไขระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้สอดคล้องกับการทำงานร่วมกับเครือข่าย
อนึ่ง (ร่าง) พระราชบัญญัติรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพ และคุณลักษณะทางเพศ พ.ศ. .... เป็นการยกร่างกฎหมายโดยการอิงตามหลักสากล โดยเฉพาะจากหลักการยอกยาการ์ตา (The Yogyakarta Principles) ในประเด็นวิถีทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ ตามหลักการที่ว่า “มนุษย์ทุกคนย่อมเกิดมาโดยอิสระและเสมอภาคในศักดิ์ศรีและสิทธิต่าง ๆ บรรดาสิทธิมนุษยชนทั้งหมดล้วนมีความเป็นสากล มีความยึดโยงซึ่งกันและกัน ไม่สามารถแบ่งแยกจากกันได้ และมีความสัมพันธ์ เกี่ยวข้องกัน “วิถีทางเพศ” (Sexual Orientation) อัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) เป็นส่วนสำคัญของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของแต่ละบุคคล และต้องไม่เป็นเหตุผลของการเลือกปฏิบัติหรือกระทำทารุณกรรม โดยพระราชบัญญัติดังกล่าวมีทั้งหมด 6 หมวด 29 มาตรา มีหลักการสำคัญ 3 ประการ คือ
1) ตั้งอยู่บนหลักการ Self – Determination ห้ามมีการบังคับให้ผ่านกระบวนการแปลงเพศ กระบวนการพิสูจน์ทางการแพทย์ การตรวจสุขภาพจิต
2) ห้ามมีใครเลือกอัตลักษณ์ทางเพศให้
3) เมื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้เลือกอัตลักษณ์ทางเพศของตนแล้ว ต้องมีการให้บริการตามมาตรฐานสาธารณสุขและดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาวะทัดเทียมกับบุคคลอื่น ๆ ในสังคม
ทั้งนี้ การรับฟัง (ร่าง) พระราชบัญญัติรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพ และคุณลักษณะทางเพศ พ.ศ. .... มีกำหนดการรับฟังความคิดเห็นจากภาคีเครือข่ายและประชาชนทั่วไปใน 4 ภูมิภาค และเวทีสำหรับกลุ่มเฉพาะ รวม 7 ครั้ง ดังนี้
1) ภาคกลางและภาคตะวันออก วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565
2) ภาคเหนือ วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565
3) ภาคใต้ วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2565
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565
5) เวทีของกลุ่มชายข้ามเพศ (Trans Men) วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2565
6) เวทีของกลุ่มผู้มีอัตลักษณ์ไม่เป็นไปตามกรอบหญิง - ชาย (Non-Binary) วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565
7) เวทีของกลุ่มบุคคลที่มีเพศกำกวม (Intersex) วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ จะมีการสรุปการรับฟังความคิดเห็นและปรับปรุงร่างกฎหมายเพื่อให้เกิดความรอบคอบ รอบด้าน และมีประโยชน์สำหรับทุกคนอย่างแท้จริงต่อไป

เลื่อนขึ้นด้านบน