กสม. สุภัทรา เป็นวิทยากรในงานประชุมสัมมนา การเข้าถึงบริการสุขภาพ และการปกป้องคุ้มครองสิทธิของกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดที่มีความหลากหลายทางเพศ

26/07/2565 180
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.30 น. นางสาวสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นวิทยากรเวทีเสวนา เรื่อง การบังคับใช้กฎหมายและการปกป้องคุ้มครองสิทธิของกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดที่มีความหลากหลายทางเพศ ในงานประชุมสัมมนา หัวข้อ การเข้าถึงบริการสุขภาพและการปกป้องคุ้มครองสิทธิของกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดที่มีความหลากหลายทางเพศ ณ ห้องบอลรูม ชั้น 7 โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของการปกป้องคุ้มครองสิทธิของกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดมี 3 ประการคือ หนึ่งปัญหาจากตัวกฎหมายเอง เนื่องจากพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. พ.ศ. 2564 ยังคงกำหนดเป็นความผิดทางอาญาสำหรับการเสพหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ซึ่งยังไม่สอดคล้องกับทิศทางสากลที่เสนอแนะให้ใช้มาตรการทางสาธารณสุข การลดอันตรายจากยาเสพติด (Harm Reduction) และสิทธิมนุษยชน แทนมาตรการทางกฎหมาย สองปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ตรงไปตรงมา มีการเรียกรับผลประโยชน์ ผู้บังคับใช้กฎหมายขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด และสามทัศนคติ ความคิด ความเชื่อ รวมทั้งความรู้ของคนในสังคมเกี่ยวกับยาเสพติดและผู้ใช้สารเสพติด จึงมีข้อเสนอแนะต่อการปกป้องคุ้มครองสิทธิของกลุ่มผู้ใช้สารเสพติด ดังนี้
1. ภาคประชาสังคมควรขับเคลื่อนให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อยกเลิกโทษทางอาญาต่อผู้เสพหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และใช้กระบวนการในการพัฒนาและขับเคลื่อนกฎหมายในการสร้างความเข้าใจต่อสังคมว่าทำไมต้องยกเลิก ใครจะได้ประโยชน์ รวมทั้งติดตามการบังคับใช้กฎหมาย เก็บบันทึกข้อมูลให้เป็นระบบถึงปัญหาการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดในส่วนผู้เสพ
2. ภาคประชาสังคมควรมีการพัฒนากลไกการปกป้องคุ้มครองสิทธิในกลุ่มของตนเอง เช่น การพัฒนานิติกรชุมชน เป็นต้น หากพบการละเมิดสิทธิมนุษยชนควรร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ปรากฎเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์และข้อเสนอเชิงนโยบาย
3. ควรมีการรณรงค์สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับยาเสพติดและผู้ใช้ยา ให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน
“กสม. มีหน้าที่อำนาจในการจัดทำรายงานประจำปีเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนภายในประเทศและเสนอต่อรัฐสภา อีกหน้าที่และอำนาจหนึ่งที่สำคัญคือ ตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือการละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรืออันไม่เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี และเสนอมาตรการการแก้ไขที่เหมาะสมต่อบุคคล หรือหน่วยงานที่กระทำหรือละเลยการกระทำดังกล่าวเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป” กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าว
เลื่อนขึ้นด้านบน